เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เข้าเยี่ยมลูกความ ก่อนออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เข้าไปอัปเดตความคืบหน้ากับบอสพอล ว่า ในตอนนี้สำนวนคดีถูกโอนไปยังดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากจะต้องยื่นเอกสารใด ๆ เพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งการยื่นเอกสารร้องทุกข์กล่าวโทษต่อบุคคลอื่นเพื่อให้เปลี่ยนสถานะจากผู้เสียหายมาเป็นผู้ต้องหาก็จะต้องไปยื่นให้ดีเอสไอแทน คาดว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนการโอนสำนวนคดีจากตำรวจไปที่ดีเอสไอนั้น ตนมองว่าไม่มีอะไรดีกว่าหรือเสียกว่า เพราะแค่เป็นการเปลี่ยนเจ้าภาพ เปลี่ยนคนสรุปสำนวนเท่านั้น

อีกทั้งดีเอสไอก็มีประสบการณ์ เจ้าหน้าที่คงแยกออกว่าอะไรคือการฉ้อโกงประชาชน หรืออะไรไม่ใช่ และย้ำว่าไม่มีผลอะไรต่อแนวทางการสู้คดีหลังจากนี้ เพราะตนได้อธิบายบอสพอลไปทั้งหมดแล้ว ผลเสียคงจะมีอยู่เรื่องเดียว คือ การที่เขายังอยู่ในเรือนจำฯ นอกจากนี้ ในเรื่องของการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ใช่การยื่นกับดีเอสไอ แต่ต้องยื่นต่อศาลยุติธรรม และเบื้องต้นคาดว่าจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวในสัปดาห์หน้าของเดือน พ.ย. อาจจะวันที่ 17 พ.ย. ทั้งนี้เราไม่ได้คาดหวัง แต่การได้รับการประกันตัวชั่วคราวจะช่วยให้สามารถออกมาสู้คดีได้ เพราะมันยังมีข้อเท็จจริงและเอกสารที่พวกเขาต้องอธิบาย แต่ในส่วนของบอสดารา ตนไม่ทราบว่าจะยื่นประกันตัวชั่วคราวหรือไม่

ทนายวิฑูรย์ เผยอีกว่า สำหรับประเด็กหลัก ๆ ที่ตนได้พูดคุยกับบอสพอล คือ กรณีที่มีการตีเนียนเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากได้มีการไปรวบรวมรายชื่อผ่านโครงการ iConHelp ที่ชัวร์แล้วว่าจะมีการไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับดีเอสไอมีจำนวน 5 ราย ส่วนใหญ่คือบุคคลที่ไปออกรายการชื่อดัง เห็นเป็นตัวเป็นตน และตนรู้จักเห็นในสื่อ ซึ่งล้วนมีพฤติการณ์เป็นแม่ทีม แต่ตีเนียนเป็นผู้เสียหาย โดยเป็นบุคคลที่มีตัวแทนในสังกัดเยอะ ได้กำไรจากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด หลายล้านบาท แต่สั่งซื้อของจากบริษัทไปเท่าไร หากลูกความเรามีความผิดอย่างไร คุณก็ต้องมีความผิดตามนั้น ส่วนกรณี 2,000 รายชื่อก่อนหน้านี้ ตนจะต้องไปตรวจสอบกับระบบ iConHelp ต่อเนื่อง เพราะถ้ามีการแจ้งความไว้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นแม่ทีมก็ไม่รอด

ทนายวิฑูรย์ เผยถึงพฤติกรรมของแม่ทีมว่า แม่ทีมคือคนที่มีตัวแทนอยู่ในสังกัด และไปบอกให้ตัวแทนมาเปิดบิล 250,000 บาทกับทางดิไอคอนฯ โดยที่ 18 บอสไม่รู้เรื่องเลย ไปชักชวนให้คนมาเปิดบิล โดยไม่ได้ประเมินความสามารถของตัวแทน ดังนั้น ถ้าเราโดน คุณก็ต้องโดนด้วย และยืนยันว่าไม่ใช่เทคนิคที่เอาผู้เสียหายมาเป็นผู้ต้องหาแล้วทำให้เรารอด เพราะเราซวย เราโชคร้าย เราถูกดำเนินคดี คุณก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกันกับเรา จะมาลอยตัวไม่ได้ คุณต้องพิสูจน์ตัวเองในชั้นกระบวนการยุติธรรมเหมือนที่เรากำลังพิสูจน์อยู่ ส่วนทำไมก่อนหน้านี้ไม่มาเอาผิดแม่ข่ายนั้น ตนเพิ่งมาเป็นทนายความ แต่การเอาผิดพวกเขา ก็เพราะเรายืนยันว่าธุรกิจบริษัท ดิไอคอนฯ ไม่ได้ผิดกฎหมาย ไม่ได้ฉ้อโกงประชาชน

ทนายวิฑูรย์ เผยต่อว่า ส่วนทั้ง 5 รายที่จะถูกขยับเป็นผู้ต้องหาจะมีดาวน์ไลน์กี่คนนั้น ตนขอเวลาไปตรวจสอบก่อน แต่อาจจะมีหลายราย คิดว่าอาจจะถึงหลักร้อยคน ส่วนถ้าทั้ง 5 รายจะไปเคลียร์กับดาวน์ไลน์ตัวเองได้ แล้วไม่ไปขึ้นศาลนั้น ตนมองว่ามันเป็นเรื่องในอนาคต แต่ถ้าเป็นผู้เสียหายจริงก็ต้องกล้าขึ้นศาล หลังจากนี้ตนจะไปขอคัดหนังสือจากกองบังคับการปราบปราม ว่าบรรดาผู้เสียหายมีใครบ้าง จะได้ไปตรวจสอบว่าเป็นผู้เสียหายจริงหรือไม่ ถ้าไม่ ก็จะเปลี่ยนสถานะให้เป็นผู้ต้องหา ย้ำว่าเราไม่ได้ข่มขู่ เราใช้สิทธิตามกฎหมาย.