เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 67 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายทิฆัมพร บัวแก้ว หรือเอ็ม ท่าข้าม อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.85/2560 ลงวันที่ 17 ก.พ. 60 ฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย” โดยจับกุมได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาพระราม 2 ซอย 28 กลางซอย แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 60 เหตุต่อเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ไปทำร้ายกลุ่มคู่กรณีในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในซอยอนามัยงามเจริญ 31 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. หลังเกิดหึงหวงแฟนสาวที่ทำงานในคาราโอเกะ และแฟนสาวได้บอกว่า มีกลุ่มลูกค้าผู้ชายได้ทำร้ายร่างกายตน นายเอ็ม กับพวกจึงเดินทางมาทำร้ายกลุ่มผู้เสียหาย เมื่อกลุ่มผู้เสียหายสู้ไม่ไหว ได้ขี่รถจยย.หนีไป จากนั้นนายเอ็ม ได้ขี่รถจยย. ตามไปจนถึงพื้นที่ซอยท่าข้าม 8 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ซึ่งเป็นซอยตันและเป็นคลองน้ำทำให้คู่กรณีขี่รถตกลงไปในคลอง จากนั้น นายเอ็ม ได้นำตัวคู่กรณีขึ้นมาจากคลอง ก่อนทำร้ายร่างกายเตะต่อยที่ลำตัวและใบหน้าแล้วหลบหนีไป

รุ่งเช้าในวันเดียวกัน นายเอ็ม ทราบเรื่องจากพนักงานในร้านคาราโอเกะดังกล่าวว่าคู่กรณีที่ทำร้ายได้เสียชีวิตแล้ว จนทำให้ นายเอ็ม เกิดความกลัวในความผิดและตัดสินใจหลบหนีคดีไปเป็นระยะเวลารวมกว่า 7 ปี กระทั่งก่อนที่จะถูกจับกุม นายเอ็ม ได้ตายใจว่า ไม่มีตำรวจติดตามคดี จึงกลับมาประกอบอาชีพขับรถสองแถวใกล้กับพื้นที่ สน.ท่าข้าม จุดจอดรถสองแถวห่างจากตัว สน.ท่าข้าม 200 เมตร จนถูกฝ่ายสืบสวนสืบนครบาลจับกุมตัวได้ในที่สุด สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีสติในการแก้ปัญหา ไม่วู่วาม อย่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ตั้งสติ อย่าใช้อารมณ์ ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ผิดพลาดพลั้งขึ้นมา เกิดเป็นคดี ต้องถูกไล่ล่าตามจับ หลบหนีไปตลอด เสียทั้งงานและอนาคต มีประวัติติดตัว โดยตามกฎหมายอาญาตามมาตรา 290 นั้น “ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 -15 ปี”.