เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ภายหลังจากที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ได้เข้าเยี่ยมลูกความ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เข้าไปคุยกับบอสพอล เจ้าตัวได้ฝากอะไรเพิ่มเติมมาหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนได้รับออร์เดอร์เพิ่มเติมจากบอสพอล อีก 1 ออร์เดอร์ คือ ให้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มแม่ข่าย 2,000 คน ที่ตีเนียนเป็นผู้เสียหายในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีขบวนการแจ้งความเท็จ สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเป็นการแจ้งความแบบแพตเทิร์น มีการพยายามบอกว่าดิไอคอนไปหลอกลวงให้ทางตัวแทนสั่งซื้อสินค้ากับทางดีลเลอร์ จนขายไม่ได้ แล้วแม่ข่ายสัญญาว่าจะช่วยขาย ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะบริษัทฯ เป็นบริษัทฯ ขายส่งสินค้า เราขายให้ตัวแทนแล้วตัวแทนต้องขายต่อ หากขายไม่ได้ก็รับความเสี่ยงกันไป

“แต่ปรากฏว่ามีการเข้าไปแจ้งความเพื่อปิดประเด็นให้เข้าข่ายฉ้อโกง ด้วยการเกณฑ์ผู้เสียหายจำนวนมากเข้าไปแจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้ ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การโยนความผิดให้กับแม่ข่ายแต่มันเป็นข้อเท็จจริง ดังนั้นภายในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือถึงตำรวจสอบสวนกลางให้ดำเนินคดีกับคนที่มาแจ้งความและอ้างว่าเป็นผู้เสียหายแต่จริงๆ เป็นเพียงผู้เสียผลประโยชน์ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2,000 คน จากที่แจ้งความทั้งหมด 8,000 กว่าคน แต่ความจริงแล้วเท่าที่เข้าข่ายคาดว่าประมาณ 6,000 คน แต่เท่าที่ตรวจสอบและจะแจ้งความแบบแน่นอนเลยคือ 2,000 คน ส่วนตัวก็มองว่าเป็นยอดที่เยอะเช่นเดียวกัน แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพวกที่ขายของไม่ได้แล้วมาตีเนียนเป็นผู้เสียหายด้วย ซึ่งตนจะให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนเหมือนที่กลุ่มบอสพอลเจอ” ทนายวิฑูรย์ กล่าว

คึกคัก! ‘ญาติ-ทนาย’ บุก เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เยี่ยม ‘บอสชายดิไอคอน’ วันแรก

ทนายวิฑูรย์ ยังบอกว่า บอสพอลได้ฝากตนมาบอกกับนักข่าวว่า “พอลจะไม่ปล่อยมือใคร” นักข่าวจึงถามย้ำว่าหมายความว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังใช่หรือไม่ ทนายตอบเสียงดังฟังชัดว่า ใช่ เพราะเราไม่ได้กระทำความผิด แต่โดนดำเนินคดี ส่วนคนที่เป็นคนทำตัวจริง ไปหลอกลวงให้คนมาซื้อสินค้าแล้วอ้างว่าจะมาช่วยขาย หรืออ้างว่าไม่ต้องขายสินค้าแต่ให้ไปหาคนเพิ่มนั้น กลุ่มคนเหล่านี้มีเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ปล่อยมือใคร เราโดนดำเนินคดี พวกคุณก็ต้องเป็นผู้ต้องหาเหมือนกันกับเรา ตอนนี้มันต้องแฟร์กันแล้ว

ส่วนออร์เดอร์ที่จะดำเนินคดีกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จนั้น ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า จะดำเนินคดีแน่นอน แต่ตอนนี้ขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งบอสพอลจะดำเนินคดีกับนายเอกภพ ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนพยานเท็จจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท

ทั้งนี้ ทนายวิฑูรย์ กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากเข้าเยี่ยมบอสพอล และได้คุยกันกับกลุ่มทนายความของ 15 บอส เว้นกลุ่มทนายความของบอสดาราที่ยังไม่ได้คุย ทุกคนบอกว่า จะยื่นประกันภายในสัปดาห์หน้า หากพ้นการฝากขังในผัดแรก เพราะบอสพอลอยากออกมาชี้แจงกับประชาชน และกับทุกๆ รายการ ถึงโครงสร้างของบริษัทฯ ว่ามีรูปแบบเป็นเช่นใด ส่วนที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ยื่นประกันเนื่องจากเกรงว่าจะถูกคัดค้าน หวั่นไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนจะได้ประกันหรือไม่นั้น ขอให้เป็นดุลพินิจของศาล.