เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 25 ต.ค. 67 ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายหลังจากการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้เปิดเผยถึงกรณีคดีดิไอคอน กรุ๊ป ว่า วันนี้เป็นการประชุมความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงบุคคลรับผลประโยชน์กับผู้ต้องหาในคดีดิไอคอนกรุ๊ป โดยคณะทำงานได้มีการตรวจสอบคลิปเสียง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล ซึ่งขณะนี้เหลือสอบปากคำอีกไม่กี่ปาก คาดว่าเพียงพอที่จะสรุปสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับนักร้องเรียนบางคนได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเป็นหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา หรือหมายจับต้องพิจารณากันอีกครั้ง โดยตอนนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ คลิปเสียงรีดทรัพย์เป็นในส่วนของ บก.ป. ส่วนพยานเท็จจะเป็นหน้าที่ของ บก.ปอท.

โดยในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ช่วงบ่าย ตนมีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.ปคบ. ซึ่งเป็นอดีตสามีนักร้องเรียนหญิง มาสอบปากคำเพิ่มเติม

ส่วนกรณีของนายตำรวจยศ พ.ต.อ. ที่ขึ้นไปพูดบนเวทีดิไอคอนตั้งแต่ปี 61 นั้น ทางสำนักงานจเรตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากตนมีความสนิทส่วนตัวเป็นเพื่อนกัน โดยตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายตำรวจคนดังกล่าว

สำหรับเรื่องเส้นเงินของบอสดาราทั้ง 3 ราย ที่มีการเปิดเผยในสื่อนั้น ตนไม่ทราบ เป็นในส่วนของ บก.ปคบ. ที่เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ

ส่วนเมื่อช่วงบ่ายที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไปที่เรือนจำพร้อมตำรวจนั้น คาดว่านายอัจฉริยะ มีการประสานมาทางตำรวจ ว่าได้รับการติดต่อจากทางญาติของ นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือโค้ชแล็ป หนึ่งในผู้ต้องหาว่า ตัวโค้ชแล็ป ต้องการที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไป ก็ไม่ได้รับข้อมูลอะไร

โดยในวันนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล นำข้อมูลหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดกับนักร้องเรียนเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่จะเอาผิดกับทาง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รวมไปถึงพยานที่ให้ข้อมูลเท็จนั้น เบื้องต้นยังไม่มีการเข้าแจ้งความ แต่มีการประสานว่าจะเข้าดำเนินการหลังจากคดีรีดทรัพย์เสร็จสิ้น.