จากเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่1 ต.ค. 2567 ทำให้ยังมีผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 3 คน โดยมี 2 คน คือนักเรียนหญิงอายุ 9 ปี และ 7 ปี เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติส่วนอีก 1 คน เป็นนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี เข้ารับการรักษาที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์

ล่าสุด วันที่ 25 ต.ค. ที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (ฝ่ายการเมือง) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี คณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากร ร่วมส่งผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีรถบัสเกิดเหตุเพลิงไหม้กลับบ้าน โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากรายงานการตรวจรักษาของแพทย์รพ.เด็ก วันนี้ (25 ต.ค.) พบว่าอาการทั่วไปแข็งแรงดี บาดแผลไฟไหม้ส่วนใหญ่แห้งดี ไม่มีการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด ด้านจิตใจผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ มีการจัดการอารมณ์ที่ดี พร้อมกลับบ้านในวันนี้ ทางทีมแพทย์ผู้ให้การรักษามีแผนการนัดติดตามดูแลอาการ และส่งต่อทีมเยี่ยมบ้านในพื้นที่ต่อไป

“ขณะนี้น้องก็จะได้เดินทางกลับบ้านแล้ว ก็ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขก็จะให้ แพทย์คอยติดตามดูแล และในส่วนของแผลที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้างในการนี้ก็จะต้องทำการทำความสะอาดและก็รักษากันต่อไป ดูจากสภาพจิตใจของน้องแล้ว ดีมาก ก็เป็นส่วนที่ทางการแพทย์พอใจ ท่านนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยเด็กรุ่นนี้มากแล้วก็มีแนวทางของการดูแลในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งสอดคล้องกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้การดูแลหลังจากออกโรงพยาบาลแล้ว ก็จะมีหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การดูแลจิตใจทั้งผู้ป่วยและญาติพี่น้องทั้งหลาย เคสนี้คงใช้ระยะเวลาต่อไปอีกเป็นปี” นายสมศักดิ์ กล่าว และว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุขและอื่นๆที่เกี่ยวข้องต้องมาคุยกันเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดหรือไม่ให้เกิดขึ้นเลยจะดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ป่วยอีก 2 รายที่อยู่ระกว่างการรักษาตัวที่รพ.ธรรมศาสตร์ฯ มีการรายงานผลการรักษารายแรก  เด็กหญิง อายุ 7 ปี ซึ่งมีแผลไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) ทีมกุมารแพทย์รายงานว่า ผู้ป่วยยังมีไข้ต่ำ ๆ ห่างขึ้น หลังเริ่มยาลดความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตดีขึ้น(ความดันโลหิตที่แขน) สามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ ให้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวเวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับประทานอาหารทางปากและสามารถกินนมได้ ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อชัดเจน เฝ้าติดตามอาการ และเฝ้าระวังการติดเชื้อแทรกซ้อน ส่วนทีมศัลยแพทย์รายงานว่า แผลไม่มีการเปลี่ยนแปลง รอเปิดแผลวันที่ 30 ต.ค.นี้ในห้องผ่าตัด ขณะที่ ทีมจักษุแพทย์ รายงานว่า  วันนี้ผู้ป่วยลืมตาเองพอได้ นับนิ้วได้ที่ระยะ 2 ฟุต มองเห็นสีเปลือกตายุบบวมกระจกตาขุ่นบ้างและมีผิวกระจกตาเริ่มปิดมากขึ้น คอนแทคเลนส์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในตาข้างขวา ความดันตาค่อนสูงเล็กน้อยตาขวา ตาซ้ายความดันตาเริ่มลง

ส่วนรายที่ 2  เด็กหญิง อายุ 9 ปี ซึ่งมีแผลไฟไหม้ใบหน้า ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) ทีมกุมารแพทย์ รายงานว่า ผู้ป่วยสัญญานชีพปกติ ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ ๆ  ให้ยาลดความดันโลหิต ยังมีความดันสูงเป็นครั้งคราวสัมพันธ์กับอาการปวด หายใจได้เองโดยไม่ต้องให้ออกซิเจน ไม่หอบเหนื่อย สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ ให้ยาแก้ปวดทุก 2 ชั่วโมง เวลามีอาการเจ็บหรือก่อนทำแผล รับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี เริ่มกินอาหารทางปากได้เพิ่มมากขึ้น ปัสสาวะและอุจจาระปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดต่อเนื่อง และเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง ส่วนทีมศัลยแพทย์ รายงานว่า อาการไข้คงที่ระดับเดิม บาดแผลไฟไหม้ทำแผลด้วยวิธีการเคลือบบาดแผล ลดการเปิดแผลและอาการบาดเจ็บ ตื่นลุกมานั่งข้างเตียง กินอาหารในและนอกโรงพยาบาลได้ต่อเนื่อง ขณะที่ ทีมจักษุแพทย์ เมื่อวานเข้าห้องผ่าตัด ตาขวากระจกตาบริเวณขอบใส ตรงกลางยังมีแผลถลอกและขุ่น ทำการวางเซลล์ต้นกำเนิด เยื่อรกสองชั้น ใส่คอนแทคเลนส์ เย็บเปลือกตาขวา 50% ของความกว้าง เพื่อให้หลับตาสนิท เพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการหายของแผลที่ผิวกระจกตา ตาซ้าย ตรวจพบกระจกตาบางตัวลงบริเวณค่อนไปขอบริมกระจกตาเป็นวง 360 องศา ตรงกลางมีฝ้าขาว ได้ทำการวางเซลล์ต้นกำเนิด คลุมกระจกตาทั้งหมดด้วยเยื่อตาขาว และเย็บเปลือกตา 80% ของความกว้าง เพื่อให้หลับตาสนิท เพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นการหายของผิวกระจกตา วันนี้ปวดตาเล็กน้อย พอเปิดตาได้บางส่วน มองเห็นไฟ สามารถพอหยอดยาให้ได้.