เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวหลังตรวจเยี่ยมกองทัพบก ถึงความคืบหน้าคดีตากใบจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ถึงเรื่องนี้ เพียงแต่ไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะการมาตรวจเยี่ยมในวันนี้เป็นการพูดคุยในภาพรวมเท่านั้น ทั้งนี้เหตุการณ์ตากใบเกิดขึ้นในปี 2547 ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว และโซเชียลมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ตัดบางส่วนออก และเพิ่มบางส่วนเข้ามา จึงมองว่าต้องเอาเรื่องนี้มาดูข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งศาลตัดสินมาแล้ว 4 คดี เพราะฉะนั้นการมาพูดว่ารัฐบาลไม่เคยสนใจไยดีจึงไม่ใช่ และต้องไปดูเหตุการณ์ทั้งหมดของคดีตากใบว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า เรื่องตากใบไม่ใช่แค่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของรัฐ ซึ่งกำลังถูกคุกคาม จึงอยากให้สื่อช่วยดูตรงนี้ด้วยโดยนายกฯ ได้สั่งการตน และนายกฯ ยังได้เน้นย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้รัฐทำหน้าที่ตามบทบาทของตนเองอย่างครบถ้วน แต่ต้องเข้าใจความเป็นจริงว่าต้องจับให้ได้  ส่วนการเสนอให้ออก พ.ร.ก.ต่ออายุความคดีตากใบนั้น ถือเป็นการพูดที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง และไม่เข้าใจกฎหมาย เพราะหลักของกฎหมายนั้นที่จะให้ออกกฤษฎีกามีเรื่องภัยฉุกเฉิน ภัยฉุกเฉินทันที ซึ่งปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำยังมีเงื่อนไขอยู่ 

“ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เราเป็นนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายว่าอย่างไรก็ตามนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราดีใจติดปีก เพราะเราก็พยายามทำตามหน้าที่อยู่แล้ว เหมือนกับคดีอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน หากจบแบบไหนก็จบแบบนั้น” นายภูมิธรรม กล่าว.