ซู เบิร์ด ภรรยาของ เควิน เบิร์ด อดีตกองหลังทีมแมนส์ฟิลด์ ทาวน์ ในอังกฤษ เชื่อว่าการโหม่งฟุตบอลซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้สามีของเธอป่วยกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วด้วยวัย 70 ปี และเธอยอมรับว่าโล่งอกที่สามีเสียชีวิตเพราะบั้นปลายนั้นคนรักของเธอป่วยจนทนทุกข์ทรมานอย่างมาก ตามรายงานจากบีบีซี

ซูและทีน่า

เบิร์ด เล่นให้แมนส์ฟิลด์มากกว่า 450 นัด เบื้องต้นถูกวินิจฉัยเป็นโรคอัลไซเมอร์ด้วยภาวะซึมเศร้าในปี 2013 กระทั่งอาการแย่ลง หลงลืมวิธีการทำสิ่งต่างๆ เบิร์ด มีภาวะสมองเสื่อมเนื่องจากกระทบกระเทือนที่ศรีษะซ้ำๆ กระทั่งเขาผ่าตัดเมื่อปี 2020 และไม่เคยกลับบ้านอีกเลยจนเสียชีวิต

“พอเขาตาย ฉันรู้สึกโล่ง เขาได้แต่นอนอยู่บนเตียง พูดไม่ได้ กินไม่ได้ นอนห่มผ้า ไม่มีใครอยากอยู่แบบนั้นหรอก และฉันก็ไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่แบบนั้น”

เควิน เบิร์ด

เช่นเดียวกับ ทีนา ไวท์ ที่เริ่มกังวลเกี่ยวกับกอฟฟ์ สามีของเธอ ซึ่งเป็นนักฟุตบอลกึ่งอาชีพที่เคยเล่นให้หลายสโมสร กลายเป็นอารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้ซึ่งทำให้เขามีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“เราแต่งงานกันมา 50 ปี แต่ 10 ปีสุดท้ายมันเหมือนนรก สมัยเป็นนักเตะกอฟฟ์โหม่งบอลเก่งมาก ฉันคิดว่าความเสียหายเกิดขึ้นระหว่างอายุ 18-20 ปี เขาบาดเจ็บศรีษะหลายครั้ง แต่ซ้อมโหม่งวันละหลายชั่วโมง”

“บุคลิกของเขาเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขามีความเห็นอกเห็นใจ เป็นผู้ชายที่รักและหลงใหลฉันมาก แต่เขากลับกลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง วันหนึ่งเขาก้าวร้าวมากและบอกว่าอยากจะฆ่าฉัน เขาไม่ใช่กอฟฟ์ เราเสียกอฟฟ์ไปนานแล้ว”

“วันหนึ่งเขาคลั่ง ฉันขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำและโทรแจ้งตำรวจ แต่เขาพังล็อคประตู เขาไล่ตามต่อยฉันอย่างรุนแรง ฉันบอกกับตำรวจว่าอย่าขังเขาไว้ในห้องขัง เขาป่วย ไม่ใช่อาชญากร”

ซูและทีนา เชื่อว่าการโหม่งฟุตบอลซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้สามีของพวกเธอตายในที่สุด ทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มญาตินักฟุตบอลที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมจากบาดแผลเรื้อรัง (CTE) และการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายสามารถทำได้หลังจากเสียชีวิต เนื่องจากต้องวิเคราะห์สมอง

ศาสตราจารย์วิลลี สจวร์ต ที่วินิจฉัยสมองของกอฟฟ์ ระบุว่า อดีตนักฟุตบอลอาชีพมีความเสี่ยงสูงมากกว่าคนทั่วไปประมาณสามเท่าครึ่งที่จะเป็นโรคสมองเสื่อ และความผิดปกติอื่นที่เกี่ยวข้อง