เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 ต.ค.) เวลา 18.00 น. ร.ต.อ.ธวัชชัย ลาพันธุ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ชุดสืบสวน สภ.พนัสนิคม สายตรวจประจำตำบลหมอนนาง หน่วยกู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียง ไปตรวจสอบเหตุชิ้นส่วนศพไร้ญาติที่ฝังไว้ในสุสานถูกลักขโมยไป

ที่เกิดเหตุเป็นสุสานสว่างเหตุทุ่งเหียง ริมถนนสายพนัสนิคม-หนองเสม็ด หมู่ 4 ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม ภายในสุสานฝังร่างศพไร้ญาติที่ติดกับป่ามันสำปะหลัง เมื่อเดินเข้าไปด้านในพบแผ่นฝาปิดเป็นคอนกรีตมีความหนาประมาณ 15 เซนติเมตร ถูกงัดเปิดออก นับรวมได้ทั้งหมด 12 หลุม ตรวจสอบพบชิ้นส่วนกระโหลกหายไปทั้ง 12 หลุม และตรวจสอบรอบๆ บริเวณ พบป่าหญ้ามีรอยเดินเท้าเหยียบหญ้าเอนราบสังเกตุเห็นชัดเจน

สอบถามนายประเวศน์ สวัสดิ์ศรี อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียง ที่ดูแลทั่วๆ ไป กล่าวว่า บ่ายวันนี้ได้มีพลเมืองดีแจ้งกับตนว่ามีรถยนต์มาจอดภายในสุสาน จึงมาตรวจสอบ แต่ไม่พบรถยนต์ตามที่รับแจ้ง ขณะนั้นจึงได้ใช้สายตามองสำรวจรอบๆ บริเวณสุสาน พบแผ่นคอนกรีตถูกเปิดออก จึงเดินมาตรวจสอบดู พบว่าฝาคอนกรีตของหลุมศพถูกเปิดออกทั้งสิ้น 12 หลุม จึงแจ้งให้คณะกรรมการสมาคมรับทราบ

นายประเวศน์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อนับจำนวนดูหลุมที่ถูกเปิดฝาแล้วตรวจสอบดูภายใน พบว่าชิ้นส่วนกระโหลกศรีษะหายไป สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับตนเองเป็นอย่างยิ่ง ร่องรอยหลักฐานผักบุ้งและวัชพืชที่ขึ้นปกคลุมคลุมศพ ถูกดึงออกยังไม่เหี่ยวแห้งมากนัก คาดว่าคนลงมือก่อเหตุน่าจะลงมือไม่นาน

นายประเวศน์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว บริเวณที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใกล้กับหลุ่มฝังศพที่สร้างใหม่ ไม่ห่างถนนมากนัก ครั้งนั้นหลุมศพถูกเปิดไป 15 หลุม ส่วนกระโหลกของศพไร้ญาติได้หายไปทั้งหมดเช่นกันทั้ง 15 ชิ้น รวมกับเหตุการณ์พึ่งจะเกิดในครั้งนี้ 12 หลุม รวมทั้งสิ้น 27 หลุม ชิ้นส่วนกระโหลกถูกขโมยไป 25 กระโหลก แปลกใจหายไปเฉพาะชิ้นส่วนกระโหลกศรีษะเท่านั้น ไม่ทราบเจตนา หรือแรงจูงใจในการก่อเหตุว่าเอากระโหลกศรีษะไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด อาจจะเอาไปทำพิธีทางไสยศาตร์หรืออย่างไรก็แล้วแต่ ก็ไม่สมควร

ส่วนนางสาวสาวิตรี วิเชียร อายุ 40 ปี ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง กล่าวว่า ไม่น่ามีใครมาเบียดเบียนร่างผู้เสียชีวิตไร้ญาติ อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมให้ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆ ที่เกิดเหตุเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.