เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 67 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และตำรวจท่องเที่ยว จ.นครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.อ.ภูมิ บาลทัพย์ ผกก.พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ธีรพงศ์ วิชิต สว.สส.สภ.หาดใหญ่ จับกุม นาย ERWIN APRI ANTO อายุ 45 ปี ชาวอินโดนีเซีย ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์เงินสด 1 ล้านบาทในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ผู้เสียหายได้ไปถอนเงินสดจากธนาคารแห่งหนึ่งย่านหาดใหญ่ 1 ล้านบาท แล้วนำมาวางไว้ในแคปเบาะหลังรถกระบะ ก่อนขับไปทำธุระหลายแห่ง กระทั่งขับรถมาจอดไว้หน้าร้านอาหารแถวๆ ชุมชนบางหัก ถนนสาครมงคล ในเมืองหาดใหญ่ และลงไปทำธุระ เสร็จแล้วก็ขับรถขึ้นสะพานสัจจกุล แต่พบว่าประตูรถฝั่งซ้ายปิดไม่แน่น จึงจอดรถแล้วลงไปปิดประตู แต่ปรากฏว่าเงินที่อยู่ในซอง 1 ล้านบาท ที่เพิ่งเบิกมาจากธนาคารหายไปแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความตำรวจสภ.หาดใหญ่
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปสอบถามพยานแวดล้อม มีแรงงานเมียนมารายหนึ่้ง ให้ข้อมูลว่า ตอนที่รถกระบะคันของผู้เสียหายจอดอยู่มีรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีบรอนท์ทอง ทะเบียน กค 4604 นครศรีธรรม ขับมาจอดติดเครื่องอยู่ที่ข้างหน้ารถกระบะคันออกไปประมาณ 20 เมตร ซึ่งสงสัยว่าจะเป็นรถผู้ก่อเหตุ ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพรถเก๋งได้ขับตามรถผู้เสียหายมาห่างๆ ตลอด ก่อนสบโอกาสลงมือก่อเหตุงัดประตูขโมยเงิน 1 ล้านไป และได้ขับหลบหนีไปยังพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ซุ่มรอจนผู้ต้องหารายนี้ออกจากโรงแรม มาขึ้นรถเก๋งจึงเข้าจับกุม จากการตรวจค้นในกระเป๋าพบเงินสดเหลืออยู่เพียง 4 แสนบาทจากที่ขโมยไป 1 ล้านบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า ตอนเกิดเหตุไปจอดรถรอเพื่อน ซึ่งขึ้นไปแลกเงินบนธนาคาร เห็นผู้หญิงคนหนึ่งไปเบิกเงินสดจำนวนมากออกจากธนาคาร จึงตามลงมาดู พบว่าได้นำเงินใส่ซองมายื่นให้กับคนที่อยู่ในกระบะที่จอดอยู่หน้าธนาคาร จึงได้ขับรถสะกดรอยตาม และมาสบโอกาสลงมือตอนที่เจ้าของรถกระบะลงไปทำธุระ งัดประตูรถขโมยเงินสดมาได้ และหลบหนีเข้าพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนมาถูกจับกุม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นคำให้การลอยๆ แต่ดูจากพฤติกรรมน่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพชาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย และตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ เบื้องต้นได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีต่อไป.
