เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย มอบหมายให้นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย นำบันทึกประจำวัน สภ.บ่อผุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้ารื้อถอนอาคารวิลล่าในโครงการอาริยะ เรสซิเดินท์ ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จำนวน 11 หลัง หลังได้มีคำสั่งให้เจ้าของอาคารรื้อถอน ตั้งแต่ปี 2562 แต่เจ้าของอาคารยังเพิกเฉย และยังมีการใช้อาคารมาอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเทศบาลนครเกาะสมุย ได้เข้าปิดล้อมอาคาร และปิดป้ายประกาศรื้อถอน โดยมี ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.สอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

แต่เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ไปถึงที่ตั้งโครงการ ปรากฏว่าด้านหน้าทางเข้าโครงการได้มีการนำประตูเหล็กมาปิดกั้นไว้ พร้อมปิดป้ายข้อความ  “ที่ดินส่วนบุคคลห้ามเข้า” และได้มีทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทฯ เจ้าของโครงการดังกล่าวมาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอน และคัดค้านคำสั่งดังกล่าวต่อเทศบาลไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา และวันนี้ก็มาคัดค้านเพิ่มต่อว่าจะไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอน เพราะมองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเทศบาลนครเกาะสมุยตั้งแต่ปี 2562 ตั้งแต่การปิดหมาย การแจ้งผู้ครอบครองอาคาร ยังไม่ชอบด้วยกฏหมาย และจะใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองหลังจากนี้ จากนั้นนายพัลลภ  จึงได้เข้าไปแจ้งความลงบันทึกต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ขณะที่ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจได้ลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ทำหนังสือคัดค้านคำสั่งรื้อถอนอาคาร ลงวันที่ 21 ตุลาคมนี้ เพื่อคัดค้านตามประกาศเทศบาล ฉบับนครเกาะสมุย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งได้ครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 20ตุลาคม 2567 แล้ว การลงบันทึกประจำวันของทนายความสามารถทำได้หรือไม่

ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นไปตามการบังคับใช้คำสั่งทางปกครอง ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ของเทศบาลนครเกาะสมุย ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 และติดคำสั่งไว้ชัดเจนภายในพื้นที่ของโครงการ แต่ปรากฏว่ายังมีผู้ฝ่าฝืนเข้าไปใช้อาคารอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าทำการรื้อถอนอาคารได้ตาม ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 ได้ใช้โดรนสำรวจจากมุมสูงเพื่อตรวจสอบอาคารเป้าหมาย พบว่ายังมีผู้พักอาศัย สังเกตได้จากมีคนเล่นน้ำอยู่ภายในวิลล่า ส่วนเชือกขาว-แดง ที่เจ้าหน้าที่เคยใช้ปิดกั้นตัวอาคารทั้ง 11 หลัง เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ถูกรื้อถอนออกไป

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเข้ารื้อถอนอาคารไม่สำเร็จ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ได้ส่งหนังสือด่วนถึงผู้รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งรักษาราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ให้พิจารณามีคำสั่งให้เจ้าหน้าเทศบาลนครเกาะสมุย ในฐานะเจ้าหน้าพนักงานท้องถิ่นบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ตามมาตรา 43(2) ที่เจ้าพนักงานมีอำนาจในการรื้อถอน