ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม นำโดย นายประศาสน์ เอี่ยมละออ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าว กรณีเรือประมงชายฝั่งนอกพื้นที่ใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายจำนวนมาก คาดว่าเกือบ 100 ลำ เข้ามาลักลอบลากหอยแครงในพื้นที่อนุรักษ์ สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรสัตว์น้ำ และยังทำให้น้ำขุ่นหน้าดินเกิดการเน่าเสีย เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เกรงว่าจะทำให้สัตว์น้ำวัยอ่อนสูญพันธุ์ และทำให้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เสื่อมโทรม ถึงขั้นชาวบ้านที่มีอาชีพประมงชายฝั่งหมดที่ทำมาหากิน 

นายประศาสน์ กล่าวว่า เรือนอกพื้นที่เหล่านี้จากการตรวจสอบมาจาก จ.เพชรบุรี  จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรปราการ ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ทั้งการคราด การใช้อวนตาถี่ ลักลอบเข้ามาคราดลูกหอยแครง ไม่เว้นแม้ในเขตอนุรักษ์จากชายฝั่ง แบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้สัตว์น้ำวัยอ่อนทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา กั้ง ได้รับผลกระทบและตายไปด้วย ซึ่งในอดีตสัตว์น้ำบริเวณนี้ชุกชุมมาก เพราะชาวบ้านในพื้นที่ไม่จับแบบทำลายล้าง ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 1,500-2,000 บาท แต่พอเรือกลุ่มนี้เข้ามา ทำให้สัตว์น้ำดังกล่าวสูญหายไป บางวันชาวบ้านออกไปจับแทบไม่ได้กลับมาเลย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากวดขันจับกุม ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับเรือประมงกลุ่มนี้ด้วย 

นางพรพรรณ นวมศิริ อายุ 63 ปี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.บางแก้ว กล่าวว่า เดิมป่าชายเลน ต.บางแก้ว อุดมสมบูรณ์ มีลูกหอยแครงเกิดบริเวณชายฝั่งจำนวนมาก แต่ปัญหาตอนนี้คือมีเรือนอกพื้นที่ใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายลักลอบเข้ามาคราดหอยแครงในบริเวณชายฝั่งซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ เป็นร้อยๆ ลำมาหลายวันแล้ว โดยใช้ทั้งใช้คราด อวนก็ตาถี่ ไม่เว้นแม้ในพื้นที่อนุรักษ์ บางครั้งก็ไม่ถึง 10 เมตรจากชายฝั่ง ซึ่งนอกจากจะทำให้สัตว์น้ำวัยอ่อนหมดจากพื้นที่แล้ว ยังทำให้หน้าดินเสียหายเกิดการเน่าเสียของดิน เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง จึงเกรงว่าในอนาคตสัตว์น้ำจะสูญพันธุ์ไปหมด ลูกหลานในพื้นที่ก็จะไม่มีสัตว์น้ำให้จับ  จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากวาดล้างจับกุมผู้ลักลอบกลุ่มนี้อย่างจริงจังด้วย