เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 67 ที่ สภ.เมืองนครนายก ได้มีชาวบ้านที่เป็นนายหน้าค้าที่ดินกว่า 30 คน ทยอยเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ญาญพุทโธ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครนายก หลังบริษัทข้ามชาติ หลอกเงินนายหน้าหลายราย รวม 350 คน ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นอดีตกำนันคนดัง และพรรคพวกสูญเงินกว่า 50 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท

กลุ่มผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อประมาณปลายปี 66 ถึงต้นปี 67 ได้มีกลุ่มบุคคล 3 ราย ระบุว่าเป็นนายหน้าใหญ่ 15 จังหวัด มากว้านซื้อที่ดินหลาย 100 ไร่ โดยอ้างว่ามีนายทุนข้ามชาติ ชื่อมิสเตอร์แฟร้งค์ , มิสเตอร์เฉิน , มิสเตอร์โรเบิร์ต , มิสเตอร์เจม และคนไทยอีก 2 คน ต้องการซื้อที่ดิน ซึ่งชาวบ้านคนใดประสงค์จะขายที่ดินแปลงละ 50 ไร่ (ธงเหลือง) จะต้องเสียค่ารังวัดแปลงละ 1,500 บาท และหากจะขายที่ดินแปลงละ 30 ไร่ (ธงแดง) จะต้องเสียค่ารังวัดเพิ่มอีกแปลงละ 2,000 บาท เมื่อมีการดำเนินการรังวัดที่ดินเสร็จแล้ว กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการทำสัญญาซื้อที่ดิน โดยจะให้ค่าตอบแทนไร่ละ 400,000 บาท สำหรับที่ดินธงเหลือง และค่าตอบแทนไร่ละ 700,000 บาทสำหรับที่ดินธงแดง

ต่อมามีการชักชวนชาวบ้านต่างมาลงทุนกันเป็นจำนวนมาก และเมื่อมีการรังวัดเสร็จได้มีการตกลงนัดวันกันทำสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งได้ให้มารวมตัวกันที่เพลิงไม้ชั้นเดียว ถนนเส้นทางเข้าโรงเรียนนายร้อย จปร 14 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก โดยแจ้งว่าใครที่ลงทุนจะได้รับเงินจากการขายที่ดินธงแดงและธงเหลืองให้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในจำนวนหุ้นละ 20,000 บาท โดยมิได้แจ้งว่าเป็นหุ้นอะไร เพียงแต่แจ้งว่าเป็นการเลี่ยงภาษีมิฉะนั้นจะมิได้รับเงินจากการขายที่ดินธงแดงและธงเหลือง ซึ่งมีบางคนไม่มีเงินซื้อหุ้นก็ได้มีการลดจำนวนค่าหุ้นลงมาเหลือจำนวนหุ้นละ 10,000 บาท บางคน 5,000 บาท ต่ำสุด 3,000 บาทตามลำดับ โดยมีคนที่เข้าร่วมทำสัญญาขายหุ้นประมาณ 50 คนจ่ายค่าหุ้นเป็นทั้งเงินสดและเงินโอนอีก

ทั้งยังมีการแจ้งที่ประชุมอีกว่าให้ทำสัญญาซื้อขายอาวุธปืนพร้อมใบอนุญาตกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในจำนวน 120,000 บาทพร้อมใบพกพาก็มีคนสนใจประมาณ 5 คน อีกทั้งยังต้องซื้อโน๊ตบุ๊กเป็นของตัวเองทุกคนต้องมีเพื่อทำงานกับบริษัทและยังทำกิจกรรมทุกๆ เช้าตั้งแต่เวลาตี 4 โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มสีเสื้อแต่ละกลุ่ม ทำแบบนี้เป็นประจำทุกๆ วัน ถ้าใครไม่ทำก็เชิญออกจากกลุ่มหรือใครถามเยอะก็จะถูกกลายเป็นตัวป่วนและก็เป็นข้ออ้างว่าบุคคลที่ป่วนทำให้การจ่ายเงินและขายที่ดินล่าช้า ผลัดแบบนี้เป็นเวลาเรื่อยมานานร่วม 2 ปี จนมีนายหน้าหลายคนคิดว่าตัวเองโดนหลอก แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองยังจะได้เงินจากการขายที่ดิน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้นัดชำระเงินค่าที่ดินคืนให้กับนายหน้าทั้งหมด แต่ก็ไร้วี่แวว บางคนถึงขนาดตัดแม่ตัดลูก เพราะว่าแม่หลงเชื่อว่าจะได้ขายที่ดินได้จริงแต่ก็สูญเงินไปกว่าล้านบาทก็ยังไม่ได้อะไรกลับคืน จนลูกชายต้องเข้ามาแจ้งความ นอกจากนี้ยังมีนายหน้าขายที่ดินหลายจังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ ฯลฯ มูลค่าความเสียหายในครั้งนี้นับร้อยล้านบาท

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว เป็นเพลิงไม้ชั้นเดียวมีคนนับร้อยและมีการเช็กคนเข้าออก ถ้าไม่ใช่คนหรือนายหน้าในการขายที่ดินจะไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปข้างในโดยเด็ดขาด เพราะมีการตรวจเข้มงวดเป็นพิเศษ คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้

ผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามกับนายสุดใจ นายหน้าใหญ่ที่ควบคุม 15 จังหวัด หลังจากรับสายบอกว่า “ดีเลยผมกำลังอยากให้ข้อมูลเต็มที่ เอาตรงๆ นะ ตอนนี้ที่ดินได้ขายไปแล้ว พร้อมโอนที่ให้ทุกแปลง แต่บางคนไม่เข้าใจหาว่าผมโกง ผมจะบอกให้นะ ผมทำงานมา 4 ปีควบคุมพื้นที่หลายจังหวัด นครนายกเป็นจังหวัดแรกที่จะโอน พร้อมยอมรับว่า ธงเหลืองนี้เป็นของผมเพราะผมไปวัด ผมก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรังวัด เจ้าหน้าที่รังวัดก็เป็นเจ้าหน้าที่พวกผมนี่แหละ แล้วผมก็ไม่ได้หลอกลวงใครทั้งนั้น ผมพร้อมที่จะโอนให้วันที่ 28 ต.ค.นี้ ทุกคน และพร้อมจะเอาผิดกับพวกที่แจ้งความผมว่าผมหลอกลวงให้ถึงที่สุด”

จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ยังได้โทรไปถามคุณแหม่ม ที่อ้างตัวเป็นเลขาบริษัท เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แต่พอรับสายก็ถูกบ่ายเบี่ยงว่าติดธุระเดี๋ยวจะติดต่อกลับ ซึ่งทางผู้สื่อข่าวก็พยายามติดต่อกลับไปอีก 2-3 ชั่วโมงให้หลังก็ไม่รับโทรศัพท์แต่ประการใด

ด้าน พ.ต.ท.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งความและสอบปากคำเบื้องต้นไว้ เพราะมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลายคน ต้องดูวันนี้ว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกันกี่คน ซึ่งจะเร่งสอบให้เร็วที่สุด แต่ต้องให้ได้ข้อเท็จจริงของคดีว่าเพราะเหตุเกิดตั้งแต่ปี 65 ทางเราต้องได้ลำดับเหตุการณ์ และจะเร่งสอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนจะออกหมายเรียกกลุ่มนายทุน พร้อมขบวนการทั้งหมดมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.