เรียกได้ว่าเป็นคู่สามีภรรยาป้ายแดง สำหรับนักแสดงสาว “วุ้นเส้น วิริฒิพา” กับเจ้าบ่าวนักธุรกิจ “นิกม์ ธนะภูมิกุล” หรือ “ไฮโซนิกม์” หลังจากที่จัดงานแต่งงานที่ Chateau de Tourreau เมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมกับจัดฮันนีมูนเที่ยวสวีตที่ต่างประเทศก่อนกลับไทย ทำเอาหลายคนเห็นก็พากันแห่กดไลก์กันมากมายนั้น
ล่าสุดหลังจากบินกลับถึงไทยสาววุ้นเส้นก็ลุยงานต่อแบบไม่พัก โดยได้เดินทางมาร่วมงานJM COSMETICS GRAND OPENING ที่ ลานจัดงานชั้น 3 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต พร้อมกับได้เล่าโมเมนต์งานแต่งที่ฝรั่งเศสและอัปเดตวางแพลนการมีลูก โดยสาววุ้นเส้นเผยว่า
“สำหรับงานแต่ที่ผ่านมาเหนื่อยมากก็ผ่านไปเดือนนึงรู้สึกว่าแฮปปี้กับทุกอย่าง เหนื่อยเดินทางแล้วก็เหนื่อยแทนเพื่อนๆ หลายคนที่ไปถึงจุดนั้นเพราะว่ามันไม่ได้ไปง่ายคือทุกคนคิดว่าพอลงเครื่องบินเสร็จก็ถึงเลย แต่ต้องต่อไปอีกเมืองหนึ่ง ถามว่าสาแก่ใจไหม สาแก่ใจ เหนื่อยสมใจ ในส่วนเรื่องงบประมาณที่หลายคนอยากรู้ในการจัดงานแต่งที่นู้น ว่าใช้เยอะขนาดไหน คือจริงๆบางอย่างก็เยอะ บางอย่างไม่เยอะ เหมือนกับเราก็สับสนกับงบเราเหมือนกันว่าอันนี้คิดว่าแพงแต่จริงๆ ไม่แพง แต่บางอย่างคิดว่าไม่ควรแพงแต่แพง แต่โดยรวมก็อยู่ในบัตเจ็ทที่วางไว้ไม่ได้เยอะมาก เพราะว่าแขกเราไม่เยอะประมาณ 120 คน ถามว่าเป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ทั้งหมดเลยไหม ก็เป็นโมเมนต์อย่างที่ตั้งใจและบางอย่างก็เกินกว่าที่คิด เพราะอย่างพลุตอนแรกก็คิดว่าจะน้อยกว่านี้เขาก็เหมือนแถมให้ส่วนประทับใจตรงไหนมากที่สุด น่าจะประทับใจคำพูดของเจ้าบ่าวมากกว่า เหมือนเราไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรวันนั้น เหมือนเขาไม่ได้เตรียมตัว แต่พอพูดออกมาแล้วเขาดูเตรียมตัว (หัวเราะ) คือก่อนหน้าหน้านั้น 2-3 วันเขาบอกเขายังไม่ได้เขียนเลยนะ ยังไม่ได้ทำเราก็รู้สึกว่าเขาต้องเขียนไม่ทันแน่เลยต้องมีเราเขียนคนเดียว แต่พอตอนหลังเขาก็ พูดออกมาเราก็เซอร์ไพร้ส์จะร้องไห้อะ เขาพูดว่า เขาก็สัญญาว่าจะดูแลเรา เขาบอกว่าจะทำอะไรบ้าง อย่างประโยคที่เรารู้สึกว่ามันก็ตัวเขาจริงๆ คือเขาจะถ่ายรูปให้เราตลอดไป จะเป็นหมอนข้างให้เรา เราก็แบบฉันกำลังดูหนังเกาหลีอยู่หรือเปล่า เขาก็น่ารักนานๆ ที ถามว่าตั้งแต่คบกันมาเขาเคยพูดอะไรแบบนี้ไหม เขาก็เป็นคนหวานแต่ไม่ขนาดนี้ วันนั้นคือมันจะเป็นหวานแบบมีโมเมนต์โรแมนติกแล้วก็มีน้ำตานิดนึง บรรยากาศมันซึ้งมาก ถามว่าได้ใช้ชีวิตสามีภรรยาแล้วเป็นยังไงบ้าง แทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรนะคะ จริงๆ เราก็เรียนรู้กันอยู่แล้ว อยู่กันมา 5 ปีแล้ว มันก็เหมือนไม่ได้ปรับตัวอะไรมากเขาก็เป็นตัวของตัวเองแต่แรกแล้วถ้าเกิดเราไม่เป็นตัวของตัวเองเราก็คงอยู่กับเขาไม่ได้ ก็เลยรู้สึกว่าเราเลือกคนที่รักในตัวเราก็ไม่ต้องปรับเยอะ งานต่อไปก็คืองานฉลอง วันที่ 7 ธันวาคมค่ะ ที่ โรงแรมดุสิตธานีค่ะ มีธีมแต่ว่าอาจจะไม่ได้จริงจังมากเพราะเหมือนเราเหนื่อยกับงานนั้นแล้ว งานนี้ก็เหมือนมาปาร์ตี้กันมากกว่าค่ะง่ายๆ แล้วก็อยากจะบอกกับเพื่อนๆว่า ก็ขอบคุณค่ะ เรารู้สึกว่าเราไม่คิดว่าเราจะได้ความรักดีๆเยอะขนาดนี้ ขอบคุณที่ซัพพอร์ตกันและมาร่วมงานสำคัญของเราอีก ถามว่าแต่งรอบสองที่ไทยต้องมีอะไรพิเศษกว่ารอบแรก จริงๆรอบนี้เหมือนเรารู้สึกว่ามันมีอะไรที่เราโตขึ้น เราก็เลยมีดีเทลต่างๆเยอะขึ้นค่ะ ถามว่าหมอดูว่ายังไงบ้างแต่งครั้งนี้ต้องมีอะไรพิเศษ หมอดูเขาก็ไม่ได้บอกว่า จะเป็นยังไงแต่ว่าเหมือนตอนแรกเขาก็บอกว่าให้จัดแบบไม่ต้องมีพิธีตอนเช้าอะไรเยอะ อยากให้จัดตอนเย็นไปเลย เราไม่ได้ถึงขนาดจำหรือเชื่อขนาดนั้น แต่เราก็คุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเขาก็เห็นด้วยว่าเราแต่งแบบจริงจังที่นู่นไปแล้ว ที่นี่ขอให้เป็นแขกที่ยังไม่ได้ไป แล้วก็มาปาร์ตี้มาร่วมกันดีกว่าง่ายๆ ค่ะ สรุปไม่มีพิธีเช้าค่ะ ในส่วนที่หลายคนจับตามองคือชุดเจ้าสาว เป็นชุดที่เราตั้งใจทำมากๆ ในชุดแรกเพราะเหมือนเป็นชุดที่เจ้าบ่าวเห็นชุดแรก แต่ว่าชุดที่ 2 ชุดที่ 3 ก็สำคัญหมดมีคอนเซปต์ที่เราตั้งใจทำหมด ต้องขอบคุณเพื่อนๆ มีแบรนด์ที่ตัดให้เราเป็นของขวัญสวยมากก็ช่วยกัน เขาบอกว่าสงสารเห็นใช้งบไปเยอะแล้วบางอย่างที่ไม่ต้องจ่ายตังค์ก็ให้ ถามว่าเจ้าบ่าวอึ้งไหมตอนเห็น ตอนที่เขาเห็นเราไม่รู้ว่าเขาอึ้งอะไร มันอาจจะบรรยากาศด้วยหรือตื่นเต้นที่ต้องสปีชอะไรหรือเปล่า เขามีโมเมนต์น้ำตาไหลตอนที่เราพูดให้เขา เขาก็รู้สึกว่าเพราะบรรยากาศตรงนั้นมันเงียบหมดเลย ตอนนั้นเราพูดไปว่า ก็สัญญาว่าจะซัพพอร์ตเขาแหละ ซัพพอร์ตความฝันของเขา ในความที่เขาอยากมีความสุขกับอะไรเราก็จะทำให้เขาแฮปปี้ทุกอย่าง คือจะเป็นเรื่องดีๆ ในชีวิตเขา
ส่วนเรื่องการมีลูก วุ้นแพลนว่าเขาอยากมี คุยกันว่าเราจะยังไงเพราะเราอายุไม่น้อยแล้วต้องปรึกษาหมอนิดหนึ่งว่าเรายังได้อยู่ไหม หมอบอกยังมีโอกาสอยู่ แต่ว่าต้องรีบหน่อย แต่ปีนี้คงไม่ทันเพราะเราก็มีละครอีกก็เลยต้องไปปีหน้าแล้ว ต้องไปฝากไข่ ต้องไปทำค่ะ จริงๆการฝากใครบางคนเขาก็ฝากไว้นานแล้ว แต่หมอบอกว่าถ้าดีที่สุดคือถ้าแต่งงานแล้วก็ผสมทำตัวอ่อนไปเลยจะดูปลอดภัยและง่ายกว่า ถามว่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากมีน้องคือตรงไหน มันคงเป็นเพราะว่าคุณนิกม์ด้วยแหละเหมือนเขามีความอบอุ่นมีความเป็นพ่อ มีหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าถ้าเขาอยากมีเราก็อยากเต็มที่กับเขา เพราะว่าถ้าเกิดเขาเป็นคนอีกลักษณะนึงเราก็คงอาจจะชิลๆ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าแต่เราสังเกตจากการที่เขาเลี้ยงแมวหรืออะไรต่างๆ ก็จะเห็นว่าเขาดูน่าจะเป็นพ่อที่ดี เคยบอกเขาว่าเราไม่ได้มีความคิดที่อยากจะมีลูกค่ะ บอกเลยว่าถ้าเธอคิดจะมีลูกแล้วเธอมาจีบฉันเนี่ยนะผิดคนหรือเปล่า คือต้องรู้ว่าถ้าคบกันวันแรกเราต้องอีกกี่ปีล่ะถึงจะแต่งงาน กว่าจะมีลูกเราก็อาจจะอายุมากเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าให้ลองทำ ถ้าเราดูแลตัวเองดีมันก็มีโอกาสก็ต้องลุ้นค่ะ แล้วพอเราตกลงโอเคเขาดีใจอยู่แล้วเหมือนเขาทำใจไว้ 2 อย่างถ้ามีเขาก็คงแฮปปี้มาก แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เขาแพลนไว้ 2 แบบ ก็คงอยู่ 2 คนไปเรื่อยๆ ถามว่ามองภาพตัวเองเป็นแม่ว่าอย่างไร เป็นได้สิ (ยิ้ม) มันคงไม่มีใครนึกภาพออกแต่ว่าก็มีค่ะพอเราโตขึ้นหลายๆ อย่างเราก็มีภาพตัวเองในหัวเหมือนกันว่าเราจะเลี้ยงลูกแบบไหนเป็นอย่างไรค่ะ ในส่วนได้ถามหมอดูไหมว่ามีลูกแล้วจะปังไหม ไม่กล้าพูดเลย มันต้องมีก่อนถึงจะรู้ไงแต่ว่าทุกคนเขาก็บอกแหละถ้ามีลูกก็คงจะมีความสุขขึ้นแล้วก็มีแรงทำงานมากขึ้น มีแรงหาเงินมากขึ้นค่ะ”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก vjwoonsen