เมื่อวันที่ 19 ต.ค. น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า หลังจากฤดูการหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ปีงบประมาณ 2567 ผ่านไปกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย คพ. ได้ทบทวนสรุปผลและถอดบทเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ร่วมกับหน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการ ในการระดมความคิดเห็นเพื่อยกระดับการทำงาน มาตรการและกลไกต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 

น.ส.ปรีญาพร กล่าวว่า เมื่อที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เห็นชอบมาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 และกลไกการบริหารจัดการ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองตามนโยบายรัฐบาลที่นำโดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยการจัดทำมาตรการฯ ในปีนี้ยกระดับจากปี 2567 มีการจัดทำพื้นที่เสี่ยงการเผาเสี่ยงฝุ่น (Risk Map) ล่วงหน้า โดยจะควบคุมพื้นที่แบบมุ่งเป้ากลุ่มป่าแปลงใหญ่รอยต่อไฟเพื่อยกระดับให้มีการบูรณาการการปฏิบัติการแบบข้ามเขตปกครอง บริหารไฟในพื้นที่ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย ภายใต้ระบบการลงทะเบียน ให้รางวัลคนทำดี บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด มีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านก่อนเริ่มฤดูหมอกควัน ใช้งบประมาณทั้งของรัฐและเอกชนหนุนเสริม สื่อสารข้อมูลอย่างรวดเร็ว 

อธิบดี คพ.กล่าวต่อว่า เป้าหมายปี 2568 กำหนดตัวชี้วัดที่คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อประชาชน จะลดพื้นที่เผาไหม้ลงไปอีกจากปี 2567 โดยพื้นที่ป่า ร้อยละ 25 พื้นที่เกษตรและพืชเป้าหมาย ร้อยละ 10 – 30 ควบคุมฝุ่นจากยานพาหนะและโรงงานในพื้นที่เมืองให้ปฏิบัติตามกฎหมาย/กฎระเบียบ ร้อยละ 100 ตั้งเป้าควบคุมค่า PM2.5 24 ชั่วโมงสูงสุดไม่เกินค่าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ.