นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ เร่งดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชที่กีดขวางเส้นทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขาต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 27 ต.ค. 67 โดยเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และคำสั่งของคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับพระราชพิธีฯ ที่สำคัญยิ่ง รวมทั้งเสริมความปลอดภัยในการเดินเรือและการสัญจรทางน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก

นายกริชเพชร กล่าวต่อว่า จท. แบ่งพื้นที่รับผิดชอบในการกำจัดผักตบชวาในแม่น้ำสายหลัก รวมระยะทาง 349 กิโลเมตร (กม.) ตามคำสั่งของคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา โดยเน้นแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 160 กม. ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท, แม่น้ำป่าสัก 50 กม., แม่น้ำน้อย 42 กม., แม่น้ำลพบุรี 67 กม., แม่น้ำสะแกกรัง 20 กม. และแม่น้ำท่าจีนสายเก่า 10 กม. ทั้งนี้ได้จัดสรรงบประมาณประจำปี 67 จำนวน 14,748,900 บาท สำหรับกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในพื้นที่เหล่านี้ทั้งหมด โดยในเดือน ก.ย. 67 ดำเนินการกำจัดไปแล้ว 298,535 ตัน หรือคิดเป็น 62.50% ของเป้าหมาย

นายกริชเพชร กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมการรองรับพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จท. ได้กำหนดจุดในการจัดเก็บผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสายสำคัญ 3 จุด ได้แก่ บริเวณวัดช้างน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณอำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี และบริเวณวัดเฉลิมพระเกียรติ จ.นนทบุรี เพื่อป้องกันไม่ให้ผักตบชวาไหลเข้ามาในเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินฯ

โดยปัจจุบันมีการส่งชุดเรือกำจัดผักตบชวา พร้อมเจ้าหน้าที่หลายชุดลงปฏิบัติงานในพื้นที่สำคัญ อาทิ ชุดเรือเจ้าท่า ผ.1 และ ผ.7 ปฏิบัติงานบริเวณ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา, ชุดเรือเจ้าท่า ผ.5 และ ผ.6 ปฏิบัติงานบริเวณวัดท้ายเกาะ ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี, ชุดเรือเจ้าท่า ผ.2 ปฏิบัติงานบริเวณสะพานพระราม 7 อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 15-28 ต.ค. 67 ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ช่วยพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำให้มีความสะดวก ประหยัด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ลดปัญหาน้ำท่วม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลทางน้ำ หรือพบเห็นความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมเจ้าท่า หมายเลข 1199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง