เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2567 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบุคคลที่มีตัวอักษรย่อ ส. ซึ่งอาจเป็นคู่ปรับกันกับตนนั้น ได้มีคลิปเสียงหลุดที่อาจเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ว่า ไม่ทราบ เพราะคู่ปรับตนเองมีเยอะ ตนได้ฟังคลิปเสียงแล้ว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน จำกัด ก็ออกมายอมรับแล้วว่าเป็นเสียงจริง ทั้งนี้ ได้มีการออกหมายจับบอสทางธุรกิจ 18 คน “แต่บอสทางการเมืองนั้น ตนเองไม่อยากเรียกเทวดา แต่เรียกว่าผีเปรต” เมื่อไรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ออกมาบอกเหตุผลกับประชาชน และตอบคำถามสื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ตนขอถามว่ากล้าหรือไม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนขอชื่นชมการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายตำรวจ โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ทำงานฉับไว ส่วนทีมที่รัฐบาลตั้งมา ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ร่วมตรวจสอบคดีบริษัท ดิไอคอน จำกัด จากการอ่านดูชื่อคณะกรรมการ เชื่อว่าประชาชนจะเห็นได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง

“สำหรับบริษัท ดิไอคอน จำกัด ทำธุรกิจตั้งแต่ปี 2561 มี ผลประกอบการพุ่งสุดขีด ระหว่างปี 2563-2565 นอกจากบอสธุรกิจที่ถูกจับไปแล้ว ยังมีบอสทางการเมืองที่ต้องจัดการ เป็นเห็บเหาสูบเลือดสูบเนื้อประชาชน ทำให้บ้านเมืองและภาคการเมืองเสียหาย ผมกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่เช่นกัน เพราะมีคนร้องสอบ คงจะหาช่องทางในการยื่นสอบต่อไป เช่น ป.ป.ช.” นายพร้อมพงศ์ กล่าว