เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เปิดเผยว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบนโยบายให้ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เป็นศูนย์กลางในการเร่งรัดจัดการในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม พร้อมส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สำหรับกรณีเด็กวัย 2 ขวบ ถูกแม่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บกะโหลกร้าว และได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตแล้ว

ขณะนี้ทาง ทีม ศรส.จังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ภูเก็ต และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่พูดคุยกับคุณย่าและคุณยายของเด็ก ซึ่งระบุว่า เด็กที่ถูกทำร้ายเป็นเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ เป็นลูกคนกลาง มีพี่น้อง 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 1 ขวบ โดยแม่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ส่วนพ่อประกอบอาชีพรับจ้างเจาะบาดาล ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ เด็กอยู่กับแม่ และถูกแม่ทุบตีเด็กจนศีรษะไปกระแทกกับพื้น ทำให้เด็กสลบไป เนื่องจากแม่เด็กมีอาการโมโหที่เด็กขับถ่ายบนที่นอน

จากนั้นจึงได้นำตัวเด็กส่งรักษาที่โรงพยาบาล และได้เอกซเรย์สมองเด็ก พบว่า มีเลือดออกในสมอง จึงนำเด็กเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ซึ่งขณะนี้เด็กปลอดภัยดีและพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเฝ้าดูอาการ โดยมีคุณย่าคอยดูแล และทีม ศรส. จังหวัดภูเก็ต คอยติดตามอาการและแผนการรักษาเด็กอย่างใกล้ชิด ในขณะที่พ่อแม่ของเด็กได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเพื่อดำเนินคดี และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแล้ว

สำหรับการช่วยเหลือดูแลเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายหลังออกจากโรงพยาบาล และพี่น้องอีก 2 คน นั้น ทางคุณย่าและคุณยาย ได้แจ้งว่ามีข้อจำกัดและไม่พร้อมในการดูแลเลี้ยงดูเด็กทั้ง 3 คน ทั้งนี้ ทีม ศรส. จังหวัดภูเก็ต จึงได้วางแผนการช่วยเหลือร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และทำงานร่วมกับครอบครัวและเครือญาติของเด็ก เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะได้เตรียมหน่วยงานด้านเด็กของกระทรวง พม. ในพื้นที่เพื่อรับเด็กเข้าไว้ในความดูแล อย่างไรก็ตาม หากพบเด็กถูกกระทำความรุนแรง ขอให้แจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ ศรส. ผ่านสายด่วนพม. 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งพร้อมส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปดูแล.