สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศ และ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหม ร่วมกันส่งหนังสือถึงรัฐบาลอิสราเอล แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งยังคงเผชิญกับวิกฤติระดับร้ายแรง และเป็นผลจากการดำเนินการของรัฐบาลอิสราเอล ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายและลำเลียงความสนับสนุนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ทางเหนือ และทางใต้ของฉนวนกาซา
เนื้อหาในจดหมายระบุต่อไปว่า มาตรการปิดล้อมด้านมนุษยธรรมของอิสราเอลที่มีต่อฉนวนกาซา ยังส่งผลให้เกิดภาวะไร้กฎหมายภายในพื้นที่ การปล้นสะดมยังคงเกิดขึ้นทั่วไป และยิ่งทำให้สถานการณ์ในฉนวนกาซาเสื่อมถอยอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลวอชิงตันต้องการให้อิสราเอล “เริ่มดำเนินการทันทีและต้องเสร็จสิ้นภายใน 30 วัน” ดำเนินการแบบใดก็ตาม ให้ฉนวนกาซาได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มขึ้น รวมถึงการอนุญาตให้มีรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือผ่านด่านทั้ง 4 แห่ง ไม่น้อยกว่าวันละ 350 คัน และการยุติปิดล้อมพื้นที่ทางเหนือของฉนวนกาซา
ทั้งนี้ บลิงเคนและ พล.อ.ออสติน เตือนว่า หากไม่ปฏิบัติตามหรือดำเนินการไม่เต็มที่ “เรื่องนี้อาจมีผลต่อนโยบายของสหรัฐที่มีต่ออิสราเอล” จากการที่กฎหมายของสหรัฐระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถระงับความสนับสนุนทางทหาร ให้แก่ประเทศที่ขัดขวาง ความพยายามมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของรัฐบาลวอชิงตัน
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาลอิสราเอลออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กำลังพิจารณาเนื้อหาในจดหมายอย่างละเอียด และจะหารืออย่างใกล้ชิดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของสหรัฐต่อไป.
เครดิตภาพ : AFP