พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีมอบถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 ประจำปี 2567 โดยมี นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนคณะกรรมการการแข่งขันฯ ร่วมรับผู้แทนพระองค์ จากนั้น ผู้แทนพระองค์ ขึ้นไปยังบริเวณพิธีฯ ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบแล้ว อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มอบสูติบัตร ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ มอบเงินเพื่อการกุศล นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวรายงาน เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวเบิกตัวนักกีฬาลงสนาม ต่อจากนั้น ผู้แทนพระองค์ ร่วมรับชมการแข่งขันฯ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทย และ ทีมชาติซีเรีย
นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มาในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 นัดชิงชนะเลิศ การจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” จัดขึ้นตั้งแต่พุทธศักราช 2511 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานถ้วยรางวัลนี้ ไว้เป็นเกียรติยศแก่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยปัจจุบันนับว่าถ้วยพระราชทานนี้ มีความเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และเก่าแก่เป็นอันดับสองในทวีปเอเชีย โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกต่าง ๆ ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในทุกปี
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ มีส่วนส่งเสริม สนับสนุน ให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจกับกีฬาฟุตบอล ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความรักความสามัคคีให้แก่คนในประเทศ และรวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชนได้พัฒนาตนเอง ก้าวขึ้นสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพและทีมชาติไทย อีกทั้งยังถือเป็นการพัฒนามาตรฐานกีฬาฟุตบอลให้ทัดเทียมระดับนานาชาติอีกด้วย สำหรับการแข่งขันครั้งที่ 50 มีทีมที่รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันกับประเทศไทย 3 ทีม ได้แก่ ทีมชาติสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย ทีมชาติสาธารณรัฐทาจิกิสถาน และทีมชาติสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทยจะลงทำการแข่งขันกับทีมชาติสาธารณรัฐซีเรีย ในการนี้ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ ได้มอบเหรียญที่ระลึกให้แก่นักกีฬาทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมชาติซีเรีย และทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีมชาติไทย พร้อมมอบถ้วยรางวัลพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 ให้แก่ทีมชาติไทย ซึ่งเป็นทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันในครั้งนี้