จากกรณี “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องธุรกิจชื่อดัง “ดิไอคอนกรุ๊ป” โดยมี “บอสพอล” เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม อีกทั้งยังมีดาราชื่อดังเป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งมีชื่อเป็นผู้บริหารในบริษัท ก่อนที่จะมีประเด็น หลังมีผู้เสียหายออกมาอ้างว่า ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน สูญเสียเงินไปอย่างมากมาย แต่ไม่ได้ผลตอบแทนอย่างที่สัญญาไว้ นอกจากนี้ บอสพอล วรัตน์พล ยังได้เข้าไปให้ปากคำกับ บก.ปคบ. และยังออกมาเคลื่อนไหวว่า บอกน่าสนใจไปออกโหนกระแส จนในที่สุด “บอสพอล” ก็ได้มานั่งในรายการโหนกระแส และเผชิญหน้ากับผู้เสียหายหลายคน ซึ่งเปิดรายการมา บอสพอลก็ร้องไห้ทันที จน หนุ่ม กรรชัย ต้องบอกให้ตั้งสติ เพื่อให้รายการสามารถดำเนินรายการได้ อีกทั้ง ยังมีคลิปเสียงบิ๊กบอสคนดังพูดคุยกับนักการเมือง วิ่งเต้นขอให้ช่วยเหลือ อีกฝ่ายรับปากไม่มีอะไรที่ต้องกังวล “ให้พี่มากกว่านี้ จะทำอะไรดีดนิ้วได้เลย” จนทำให้กลายเป็นวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เห็นบอสพอล ร้องไห้กลางรายการโหนกระแส ก็ทนไม่ไหวจึงได้ออกมาวิจารณ์ กล่าวว่า “ร้องไห้ฉ่ำๆ ไอคอนการแสดง ขำ บ้าบอคอแตก ปวดหัวมาก ดูแล้วเลอะเทอะ ดูแล้วเวียนหัว พอลเป็นคนฉลาดมาก และแสดงเก่ง ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ทำเหมือนสำนึก มีร้องไห้ ทำเหมือนสำนึกเห็นอกเห็นใจผู้เสียหาย แต่เส้นเรื่องวิธีการ ไม่สำนึก คำพูดที่ติดปากคือ พี่หนุ่มหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ พี่หนุ่มหมายถึงอะไร โอ้โห พีระมิดยังไม่รู้อีกนะ ว่าหมายถึงอะไร การตลาดเครือข่าย เขาก็สอนพีระมิดทั้งนั้น แหมแอ๊บแอ้สุดๆ แอ๊บที่สุด สุดเลย อย่างมั่น อย่างยั่ว อย่างแปลก อันนี้ยอมรับแปลกจริงๆ ก็ไม่ได้อะไร จะเยียวยาอย่างไรก็ไม่รู้”

นอกจากนี้ “จะตั้งศูนย์เมื่อไหร่ ทำยังไงก็ไม่รู้ ได้แต่อารัมภบทว่าจะเยียวยา อย่าใช้คำว่าเยียวยา แค่เยียวยาก็ผิดแล้ว คุณต้องใช้คำว่า ชดใช้ แล้วเป็นคนพูดจาไปเรื่อยเปื่อย ดาราพูดอย่างนี้ พยายามดิ้นไปเรื่อย ไม่รู้หนุ่มพยายามจะจี้หรือเขาพูดเอง เขาก็พูดกำกวม มันไม่พลิ้ว เรียกว่าอเนจอนาถดีกว่า ขายสินค้าหรือหาตัวแทนก็ไม่ได้ผิด แต่วางลอบกับดักชวนคนมาเรียน เมื่อได้ดาต้าเบสก็ชักชวนไปลงทุน ซื้อของเรียกว่าผิดวัตถุประสงค์ เข้าข่ายหลอกลวง มันผิดดูยังไงก็ผิดสำหรับผม แต่ตำรวจจะให้ผิดไม่ผิดไม่รู้ อาทิ ผิดที่วิธีการ ผิดที่โฆษณาชวนเชื่อ โฆษณาเกินจริง ผิดที่ชักชวนมาเรื่องหนึ่ง เพื่อเป็นกุศโลบายแล้วลากมาซื้อของจำนวนเยอะเพื่อลงทุน อันนี้ยังไงก็ผิด ยังไม่รู้ว่าผิดยังไงตายแล้ว”

อีกทั้ง “ถ้าไม่ผิด ตั๊กก็คงไม่ผิด มีเส้นอะไรก็วิ่งแล้วกัน ชอบประโยคหนึ่งที่เขาพูดว่า นิสัยผมไม่ชอบทำให้ใครเดือดร้อน โอ้โห กล้าพูด จะให้พูดถึงคนในคลิป บอกไม่อยากให้ใครเดือดร้อน ทีคนเลวๆ ช่วยกันปกปิด ทีคนดีเดือดร้อนเต็มไปหมด แล้วบอกไม่อยากทำให้คนเดือดร้อน คุณควรจะทำให้คนที่ทุเรศเดือดร้อนถูกต้องแล้ว ดาวน์ไลน์ 400,000 คน เดือดร้อนไหม อย่าไปโทษคนอื่นเลย อย่าทำเป็นดื้อตาใส”

อย่างไรก็ตาม “จำไว้นะคนไทย จำเคสนี้ไว้ให้ดี อย่าให้มันเกิดขึ้นอีก ตัวเองร่ำรวยมหาศาล ใส่นาฬิกาเรือนละ 10 กว่าล้าน 20 ล้าน ไม่รู้กี่สิบเรือน มีรถโรลส์รอยซ์ มีรถทุกประเภท มีรถที่แพงที่สุด มีความบ้าระห่ำในความร่ำรวย ทุกคนรอบข้างก็รวยแบบนั้น แล้วคุณคิดว่าคุณไม่รู้ว่าคนเขาเดือดร้อน เงินเหล่านั้นที่คุณใช้กันขนาดนั้น คือเงินคนข้างล่างทั้งนั้นแหละ คุณไม่รู้เหรอ การชวนคนมาซื้อของ ไม่เรียกลงทุน จะอะไรนักหนา สำบัดสำนวนเป็นที่สุด” บอสณวัฒน์กล่าว

ขอบคุณข้อมูล : ณวัฒน์ อิสรไกรศีล