สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า แนวทางปฏิบัติเหมาะสมที่สุด สำหรับกำลังชั่วคราวสหประชาชาติในเลบานอน (ยูนิฟิล) หรือทหารรักษาสันติภาพยูเอ็นในเลบานอน คือการต้องปฏิบัติตาม “คำขอร้อง” ของอิสราเอล และถอนทหารออกจาก “พื้นที่อันตราย” และเน้นย้ำว่า คำขอดังกล่าวของอิสราเอล “มีผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น”
ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูยืนยันว่า อิสราเอล “ไม่เคยมีเจตนา” โจมตีเจ้าหน้าที่และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับทหารรักษาสันติภาพยูเอ็น
ทั้งนี้ ทหารรักษาสันติภาพอย่างน้อย 5 นาย ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล บริเวณฐานทัพของยูนิฟิล ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า รถถังสองคันของกองทัพอิสราเอล ทำลายประตูทางเข้าฐานประจำการของยูนิฟิล ที่เมืองรัมยาห์ ทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งติดกับพรมแดนอิสราเอล
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ทหารรักษาสันติภาพ “ต้องไม่ใช่เป้าหมาย” ของการโจมตีทางทหาร การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม
ปัจจุบัน ยูนิฟิลมีทหารประจำการอยู่ในเลบานอนราว 9,500 นาย กระจายอยู่ตามฐาน 29 แห่ง ในภาคใต้ของเลบานอน โดยเป็นการประจำการตามมติที่ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งยุติสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เมื่อปี 2546 กำหนดว่า ให้มีการประจำการทหารรักษาสันติภาพของยูเอ็น ร่วมกับทหารของเลบานอน ตามแนว “เส้นสีน้ำเงิน” ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน.
เครดิตภาพ : AFP