การเมืองยังร้อนแรงอยู่ที่เรื่องของ “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกศาลออกหมายจับในคดีตากใบ และลาป่วยออกนอกประเทศไปก่อนศาลออกหมายจับ หลายฝ่ายได้รุม “กินโต๊ะ” ให้เพื่อไทยเรียกตัว พล.อ.พิศาล มาขึ้นศาลก่อนคดีหมดอายุความวันที่ 15 ต.ค.นี้

สมคิด เชื้อคง

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พรรคเพื่อไทยได้พยายามเร่งรัด ให้ พล.อ.พิศาล เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาล หากไม่มา เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะขับออกจากสมาชิกพรรค เรื่องนี้เป็นปัญหาส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล ที่มีมานาน และพรรคเพื่อไทยพยายามรักษาความเป็นพรรคการเมืองอยู่ และจะไม่ปล่อยปะละเลยให้ใครทำผิด ทราบว่าเลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุว่า มีการประสานงาน แต่ไม่ทราบว่าเป็นคณะไหน

สรวงศ์ เทียนทอง

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ทางพรรคอยู่ระหว่างประสานให้กลับมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม การหนีคดีเช่นนี้ทำให้พรรคเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อ พล.อ.พิศาล ได้คือเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้เลย ซึ่งทางพรรคคงมีมาตรการอะไรออกมาที่ชัดเจนเนื่องจากต้องรับผิดชอบต่อสังคม หากหนีคดีจนหมดอุยจะกลับมาเป็น สส.เพื่อไทยไม่ได้

ทำให้ทางฝ่ายค้าน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า สิ่งที่สังคมกำลังจับตาคือพรรคเพื่อไทยจะมีความรับผิดชอบต่อคดีนี้อย่างไร พยายามตามตัวจำเลยมารายงานตัวต่อศาลก่อนคดีหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ได้หรือไม่ ที่นายสมคิดกล่าวว่าขณะนี้เลขาธิการพรรคได้ประสาน พล.อ. พิศาล เพื่อหารือว่าจะลาออกจากพรรคเองหรือไม่ ก็หมายความว่ามีการติดต่อพูดคุยกันได้ แล้วเหตุใดจึงไม่ดำเนินการในสิ่งที่ถูกที่ควร

ปริญญา เทวานฤมิตกุล

นายปริญญา เทวานฤมิตกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กรณี พล.อ.พิศาล รัฐบาลจะต้องแสดงออกอะไรบางอย่าง เพราะหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตร.) ก็อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของรัฐบาล จึงต้องกำชับเรื่องนี้เพราะเหลือเวลาอีกประมาณ 10 วันเท่านั้นคดีจะหมดอายุความ

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้น รถคันแรกซึ่งขนมวลชนมาก็เห็นแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น แต่จนกระทั่งคันสุดท้ายในการขนมวลชนกลับก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแต่กลับไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดผู้กระทำได้” นายปริญญา กล่าว

อาจารย์ด้านกฎหมายชื่อดัง ยังกล่าวด้วยว่า ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ นายกฯ นั่งเป็นผู้บัญชา พึงกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกหมายแดง ประสานงานกับตำรวจประเทศอื่น ใน 10 วันนี้ถ้าหากรัฐบาลไม่ทำอะไรออกมา หลัง 25 ต.ค.นี้จะเป็นเรื่องที่กระทบกับรัฐบาลได้ รัฐบาลต้องแสดงออกว่า ได้กระทำเต็มที่แล้ว หาไม่แล้วเรื่องนี้จะถูกมองทันที และจะนำไปโยงกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วย ว่ามีเจตนาในการช่วยเหลือลูกน้อง หรือช่วยเพื่อนหรือไม่ ดังนั้นควรแสดงออกว่ารัฐบาลได้ดำเนินการในสิ่งที่ควรกระทำแล้ว

พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี

“พล.อ.พิศาล คงยากที่จะกลับมาทำงานทางการเมืองแล้ว หากกลับมาอีกครั้งหลังจากนี้ก็จะถูกตั้งคำถาม ว่าเป็น สส.แล้วทำไมถึงไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ อาจถูกมองว่า หากไม่ทำอะไรถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้”นายปริญญา กล่าว

ในสภาวะที่ “นักร้อง” จ้องร้องเรียนทุกอย่าง แม้แต่พูดผิดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ยิ่งต้องระวังว่า จะหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นสอย “นายกฯอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือกระทั่งประมาทเลินเล่อจนทำให้เกิดความเสียหาย ตามรอย “นายกฯปู น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้เป็นอาที่ถูกร้องจากคดีจำนำข้าวมาแล้ว รอดูท่าทีเพื่อไทยต่อไป

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

อีกเรื่องหนึ่ง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า การสงเคราะห์บุตร ของสำนักงานกองทุนประกันสังคม ( สปส.) ก่อนหน้านี้เราให้ 800 บาทต่อเดือน แต่ในปี 2568 ให้เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนประกันสังคม(บอร์ด) เรียบร้อยแล้ว แต่ส่วนตัวต้องการจะเพิ่มแรงจูงใจในการให้ผู้ใช้แรงงานตามมาตรา 33 ในส่วนของคนไทยมีบุตรเพิ่มอีก จาก 1,000 บาทเป็น 3,000 บาท ระยะเวลา 7 ปี

“มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานนำเข้าหารือในที่ประชุม บอร์ด สปส.แล้ว ไม่ได้มีการจำกัดจำนวนบุตร หากอยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จะมีลูก 1 คน 2 คนหรือ 3 คน ก็แล้วแต่ จึงอยากจะเชิญชวนผู้ประกันตน มีลูกเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับแรงงานของประเทศ และเพื่อช่วยผู้ที่ทำงานในเมือง ถ้ามีบุตรและนําบุตรไปให้กับปู่ย่าหรือตายายเลี้ยงในสังคมชนบท คุณจะได้สิทธิรับเงินในการเลี้ยงดูบุตรทันที”นายพิพัฒน์ กล่าว

นี่ก็อีกหนึ่งมาตรการที่จูงใจให้คนไทยมีบุตรเพิ่มขึ้น จากที่อัตราการเกิดต่ำลงจนเกรงจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ.

“ทีมข่าวการเมือง”