สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า ไออีเอ ระบุในรายงานประจำปีเกี่ยวกับภาคส่วนพลังงานหมุนเวียน ว่าจีนและพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นแกนนำของการบรรลุเป้าหมาย และพลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มที่จะตอบสนองความต้องการไฟฟ้าทั่วโลกได้ “เกือบครึ่งหนึ่ง” ภายในสิ้นศตวรรษนี้
ด้านนายฟาตีห์ บิรอล กรรมการบริหารของไออีเอ กล่าวว่า พลังงานหมุนเวียนก้าวหน้าเร็วกว่าที่รัฐบาลของแต่ละประเทศจะกำหนดเป้าหมายได้ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบัน เป็นตัวเลือกราคาถูกที่สุดในการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก
รายงานระบุว่า ประเทศต่าง ๆ เกือบ 70 ประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 80% ของกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก จะบรรลุ หรือดำเนินการเกินเป้าหมายปัจจุบัน สำหรับปี 2573 อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2.7 เท่าของระดับในปี 2565 ภายในปี 2573 ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมาย 3 เท่า ที่กำหนดไว้ในการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ครั้งที่ 28 หรือ “คอป28” ที่เมืองดูไบ เมื่อปีที่แล้ว
“การวิเคราะห์บ่งชี้ว่า การบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 3 เท่า เป็นไปได้อย่างแน่นอน หากรัฐบาลใช้โอกาสในอนาคตอันใกล้ เพื่อดำเนินการ” ไออีเอ ระบุเสริมว่า ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องเพิ่มความทะเยอทะยานในแผนการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (เอ็นดีซี) ซึ่งต้องเปิดเผยในปีหน้า.
เครดิตภาพ : AFP