เชฟอ้อย หรือ ยุวดี ชัยศิริพาณิชย์ เป็นคนจังหวัดพิษณุโลก เดิมทีชื่อ ศิริพร ก่อนที่เปลี่ยนมาเป็น ยุวดี เชฟอ้อยเป็น ที่โด่งดังจากรายการอาหารชื่อดังของไทย เพราะด้วยบุคลิกเป็นคนที่ พูดตรง จนทำให้แฟนคลับรู้จักเธอ

ในปัจจุบัน เชฟได้ทำธุรกิจด้านอาหาร อาทิ ร้าน CHARM GARDEN ลูกชิ้นทำเอง ซึ่งให้ลูกชิ้นเยอะล้นทะลักถุง ในราคา 100 บาท และหลังจากนั้นได้เพิ่มเมนูก๋วยเตี๋ยวแซ่บแห้งจงอางหวงไข่ ที่มีคนต่อคิวยาวเหยียด และไม่ว่าจะสาขาไหน ก็มีคนต่างแย่งกันซื้อกันแทบจะไม่พอขาย

จนกระทั่ง เมื่อปลายปี 2566 เมื่อเชฟอ้อยขายเฟรนไชส์ร้านลูกชิ้นทั่วประเทศ และมีผู้เสียหายร้องเรียนว่า ลงทุนซื้อเฟรนไชส์หวังสร้างรายได้ แต่กลับถูกเบี้ยวสัญญา ทั้งส่งของไม่ครบตามวันที่กำหนด จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จนทำให้ต้องมาเคลียร์ในรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย ได้เชิญผู้เสียหายและเชฟอ้อยมาพูดคุยกัน อีกทั้ง มีทนายคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย ทั้งผู้เสียหาย และเชฟอ้อย จนในที่สุด เชฟอ้อยยอมรับความผิดเรื่องปัญหาแฟรนไชส์ “ลูกชิ้น” ซึ่งหลังจบรายการ ชาวเน็ตต่างพูดถึงเชฟอ้อย จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ความคืบหน้าล่าสุด เชฟอ้อยถูกพูดถึงในวงการสื่ออีกรอบ จากเชฟอ้อยเจ้าของเฟรนไชส์ สู่ผู้ถูกกล่าวหายักยอกทรัพย์ โดยงานนี้ ผู้เสียหายรู้จักกับเชฟอ้อยผ่านทางทีวี และเห็นว่าเป็นเชฟชื่อดัง จึงติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหาร และได้พูดคุยจนเกิดความสนิทสนมกัน เชฟอ้อยเห็นว่าผู้เสียหายต้องการจะขายทองคำเพชร และพระเครื่อง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จึงเสนอตัวจะเป็นนายหน้านำทรัพย์สินดังกล่าวไปทำการขายให้ ผู้เสียหายเห็นว่า เชฟอ้อยเป็นเชฟชื่อดังและเป็นที่รู้จักในวงการ จึงยอมให้ผู้ต้องหานำทรัพย์สินดังกล่าวไปเพื่อทำการขาย ระยะเวลาผ่ายไปหลายเดือน ผู้เสียหายทราบภายหลังว่า เชฟอ้อยได้นำทรัพย์สินของตนไปมัดจำ เพื่อเปิดร้านอาหาร จึงได้ทวงถามกลับมายังเชฟอ้อย พบว่าเป็นความจริงจึงเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางบอน

ขณะที่ ชุดสืบสวนได้ทำการแกะรอยจนทราบว่า เชฟอ้อยได้มาอยู่ที่บริเวณห้างดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกลุ่ม สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้มีการนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจริง โดยสาเหตุมาจากหมุนเงินไม่ทัน หลังจากที่ออกรายการชื่อดังอย่างโหนกระแสไป ทำให้มีผู้ติดตามลดลง และมีคนซื้อแฟรนไชส์ลดลงด้วย ทำให้ประสบปัญหาในเรื่องของธุรกิจ จึงตัดสินใจก่อเหตุ

ทั้งนี้ เชฟอ้อยเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ได้นำเพชรจากผู้เสียหายไปขายจริง โดยตนทำหน้าที่นายหน้าเอาไปให้โปรดิวเซอร์รายการทีวีช่องดัง ซึ่งทางนั้นก็ยังไม่ได้จ่ายเงินเรา แต่ช่วงเวลาที่นำเพชรมาครั้งแรก เราได้ควักเงินจ่ายให้กับผู้เสียหายไปก่อน 500,000 บาท แต่ต่อมาภายหลังได้ออกรายการโหนกระแส กรณีที่มีปัญหาเรื่องลูกชิ้น ทำให้ขายไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนีหรือไม่จ่ายเงินให้กับทางผู้เสียหาย ที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อผู้เสียหายมาโดยตลอด และพยายามที่จะขอไกล่เกลี่ย เพื่อที่จะชดใช้เงินให้เต็มจำนวน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางบอน ดำเนินคดี ก่อนศาลอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างผัดฟ้องฝากขัง และเรื่องราวนี้จะจบอย่างไร ต้องรอติดตามค่ะ

ขอบคุณภาพ : CHARM GARDEN