สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ว่ากระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า สืบเนื่องจากผลการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง พบว่ารัฐบาลบางประเทศในสหภาพยุโรป ( อียู ) ใช้มาตรการทุ่มตลาดต่อผลิตภัณฑ์บรั่นดี ซึ่งส่งออกมาจำหน่ายที่จีน “ถือเป็นภัยคุกคาม” และสุ่มเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น
ด้วยเหตุนี้ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมบรั่นดีของจีน นับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. นี้ ผู้ประกอบการที่ประสงค์นำเข้าบรั่นดีจากอียู “ต้องวางเงินค้ำประกัน” อัตราระหว่าง 30.6%-39% ของมูลค่าบรั่นดีที่นำเข้า


ทั้งนี้ บรั่นดี “เฮนเนสซี” ของฝรั่งเศส เผชิญกับอัตราเงินประกันสูงสุด 39% ส่วนบรั่นดี “มาร์แตลล์” ของฝรั่งเศสเช่นกัน เผชิญกับอัตราเงินประกันต่ำที่สุดในกลุ่ม คือ 30.6% มาตรการดังกล่าวจะเพิ่มตุ้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ในการนำเช้าบรั่นดีจากอียู โดยเฉพาะจากฝรั่งเศส ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนจากกระทรวงพาณิชย์จีน ว่าบริษัทนำเข้าจะได้รับเงินประกันคืนเมื่อใด


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายบริหารของอียู ยืนยันการเตรียมใช้อำนาจ เรียกเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้า ( อีวี ) ของจีน ที่จะเพิ่มเป็นสูงสุด 45% จากปัจจุบัน 10% เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือน ต.ค. นี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES