เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดโอกาสให้แกนนำมวลชนชาวบางกลอย เข้าพูดคุยรับฟังปัญหาจากกรณีที่มายื่นเรื่องร้องเรียนที่ทำเนียบ เกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกิน โดยมีนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นางธารินี แสงสว่าง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายโกมล พรมเพ็ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และผู้แทนจากกรมบังคับคดี ร่วมรับเรื่องจากชาวบางกลอยและชาวเลหลีเป๊ะ กรณีขอให้ช่วยชะลอการส่งฟ้องศาลของชาวบ้านบางกลอย และชะลอการบังคับคดีทรัพย์สินของชาวบ้านที่เกาะหลีเป๊ะ

พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชนเรื่องกรรมสิทธิ์ถือเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่ง ซึ่งกรณี “บางกลอย” เป็นเรื่องที่ยาวนานและเป็นคดีที่ผู้ถูกดำเนินคดีมีความเชื่อมั่นว่าอยู่อาศัยในพื้นที่มาก่อนที่รัฐจะประกาศเป็นเขตอุทยาน และเรื่องอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ จึงมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำเนินการตรวจสอบว่าสามารถที่จะช่วยเหลือในเรื่องใดได้ และจะมอบให้กองทุนยุติธรรมเข้าไปช่วยสนับสนุนเรื่องทนายความหรือหลักทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินคดี ซึ่งต้องขอตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง สำหรับกรณี “หลีเป๊ะ” เป็นอีกเรื่องในทำนองเดียวกันแต่เป็นเรื่องของเอกชนฟ้องเอกชน โดยเรื่องอยู่ในชั้นบังคับคดี จึงมอบหมายให้กรมบังคับคดี ดำเนินการไกล่เกลี่ย หรือถ้ามีหลักฐานใหม่ที่จะสามารถรื้อฟื้นหรือให้ความเป็นธรรมได้ให้ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมจะรับไปดูแลโดยในรายละเอียดต้องอยู่ที่ข้อเท็จจริงและหลักฐาน ซึ่งในเบื้องต้นยินดีเข้าไปดูแลให้ผู้เดือดร้อนทุกท่าน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะให้ทางกระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน โดยช่วยดำเนินการยื่นเรื่องขอให้ชะลอการบังคับคดีให้ทันก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลาของการไกล่เกลี่ยคดี มกราคม 2568 พร้อมทั้งให้ยื่นเรื่องต่อศาลโดยแนบการสืบสวนของดีเอสไอ การได้มาเอกสารสิทธิ สค.1 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แจ้งว่า จากการที่ดีเอสไอสืบสวนกรณีที่ดินแปลงดังกล่าว ทราบว่าคนที่ถือครองสค.1 ระบุจำนวน 19 ไร่ แต่ครอบครองจำนวน 22 ไร่ ซึ่งดีเอสไอได้ทำเรื่องเพิกถอนสิทธิการครอบครองที่ดินแปลงนี้แล้ว เนื่องจากดีเอสไอพบว่าอาจเป็นการแจ้งการถือครองที่แปลงนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. แล้วแต่ยังไม่ได้มีการชี้มูลคดีนี้

ด้านยุติธรรมจังหวัด กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการไกล่เกลี่ยระหว่างชาวบ้านกับเอกชน ซึ่งจะมีระยะเวลาถึงมกราคม 2568

ส่วนแกนนำม็อบ กล่าวว่า ชาวบ้านมาร้องเรียนที่ทำเนียบ 2 เรื่องคือ 1.ให้เร่งรัดการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการ ที่มาดำรงตำแหน่งแทน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นประธานฯ ที่หมดวาระ จึงทำให้ทางเอกชนเร่งรัดเอาที่ดินคืน ทั้งนี้ แกนนำชาวบ้านมีความเห็นว่าคนที่จะมาเป็นประธานแทน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ นั้น น่าจะเป็นนายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากชาวบางกลอย กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากการที่เอกชนให้มีการบังคับคดีให้ชาวบ้านรื้อถอนออกจากที่ดินทั้งหมด 30 คดี ในจำนวนนี้มีเยาวชน 2 คนด้วย โดยขณะนี้ถึงขั้นตอนที่ศาลตัดสินคดีแล้ว ว่าตนเองอยู่ในที่ดินของเขา แต่ไม่ได้มีการพิจารณาประเด็นว่าเป็นเอกสารที่ดินถูกกฎหมายหรือไม่ พร้อมกันนี้ยังได้สะท้อนปัญหาเพิ่มเติมว่ายังมีชาวบ้านประสบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ที่ถูกฟ้อง 34 ราย และ 339 ครอบครัว.