เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ปฏิบัติราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 478/2567 เรื่อง ลงโทษไล่ออกจากราชการ ใจความว่า ด้วยข้าราชการดังต่อไปนี้
1.พ.ต.อ.ชำนาญ คงชู (เกษียณอายุราชการเมื่อ 1 ต.ค. 2564) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี กองบังคับการกฎหมายและคดี ภ.9
2.พ.ต.ท.กฤติภัทร ฯ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
3.ร.ต.อ.ธนเวทย์ ฯ สังกัด บช.ภ.9
4.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อรุชา ฯ สังกัด สภ.โคกชะงาย จ.พัทลุง
5.ร.ต.ท.พันธ์ชัย ฯ สังกัด สภ.เมืองพัทลุง
6.ร.ต.ต.ชุณฐกฤตม์ ฯ สังกัด สภ.เมืองพัทลุง
7.ดาบตำรวจสุทัศน์ ฯ สังกัด บช.ภ.9
มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 47/2566 ลงวันที่ 20 ม.ค. 2566 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 132/2566 ลงวันที่ 17 ก.พ. 2566 ผลการสอบสวนรับฟังได้ว่า ข้าราชการตำรวจทั้ง 7 นาย กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่รายการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ตามมาตรา 79(1) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 โดยมีพฤติการณ์กระทำผิด สรุปโดยย่อ ดังนี้
ตำรวจทั้ง 7 นาย ซึ่งทำหน้าที่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในห้วงเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2542 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2564 ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา ผู้จัดการสหกรณ์ ลงนามสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีกระแสรายวันของธนาคารกรุงไทย สาขาพัทลุง โดยไม่ขีดฆ่า “หรือผู้ถือ” ออก ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงิน พ.ศ. 2544 หมวด 3 ที่กำหนดว่า “ก่อนจ่ายเงินทุกครั้งคณะกรรมการผู้มีหน้าที่จ่ายต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ใบสำคัญประกอบการจ่ายเงินให้ถูกต้องเรียบร้อยและต้องมีผู้อนุมัติให้จ่ายเงิน จึงจ่ายเงินของสหกรณ์ได้ทุกครั้ง และการจ่ายเงินของสหกรณ์เป็นจำนวนมากให้สั่งเช็คจ่ายในนามบุคคลหรือหน่วยงานของผู้รับเงิน โดยขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคลภายนอก นำเช็คดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารจนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
พ.ต.อ.ชำนาญ คงชู ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในตำแหน่งประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2548-2550 และปี พ.ศ. 2560-2562 มีอำนาจหน้าที่รับจ่าย และเก็บรักษาเงินของสหกรณ์ และมีหน้าที่ลงนามร่วมกับผู้จัดการสหกรณ์ และเหรัญญิก ในการสั่งจ่ายเช็คเพื่อกิจการภายในชอบวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สั่งจ่ายเช็ค จำนวน 103 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเเงิน 81,825,527.61 บาท (แปดสิบเอ็ดล้านแปดแสนสองหมื่นห้าพันห้าร้อยยี่สิบเจ็ดบาทหกสิบเอ็ดสตางค์) ไม่เป็นไปตามระเบียบของสหกรณ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคลภายนอก นำไปเรียกเก็บเงิน จนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
พ.ต.ท.กฤติภัทร ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในตำแหน่ง เหรัญญิก ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2557 มีอำนาจร่วมกับประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และผู้จัดการสหกรณ์ สั่งจ่ายเช็คเพื่อกิจการภายในขอบวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สั่งจ่ายเช็ค จำนวน 227 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 125,149,850.97 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าพันแปดร้อยห้าสิบบาทเก้าสิบเจ็ดสตางค์) ไม่เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือบุคคลภายนอกนำไปเรียกเก็บเงิน จนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
ร.ต.อ.ธนเวทย์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในตำแหน่ง เหรัญญิก ระหว่างปี พ.ศ. 2561-2563 มีอำนาจหน้าที่ รับจ่ายและเก็บรักษาเงินของสหกรณ์ และลงนามสั่งจ่ายเช็คร่วมกับประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์และผู้จัดการสหกรณ์ เพื่อกิจการภายในขอบวัตถุประสงค์ของสหกรณ์และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สั่งจ่ายเช็ค จำนวน 350 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 227,203,903 บาท (สองร้อยยี่สิบเจ็ดล้านสองแสนสามพันเก้าร้อยสามบาท) ไม่เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคลภายนอก นำไปเรียกเก็บเงิน จนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อรุชา ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในตำแหน่ง เหรัญญิก ระหว่างปี พ.ศ. 2560-2561 มีอำนาจหน้าที่ รับจ่าย และเก็บรักษาเงินของสหกรณ์ และลงนามร่วมกับประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และผู้จัดการสหกรณ์ สั่งจ่ายเช็คเพื่อกิจการภายในขอบวัตถุประสงค์ของสหกรณ์และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สั่งจ่ายเช็ค จำนวน 84 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 43,933,111.05 บาท (สี่สิบสามล้านเก้าแสนสามหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสิบเอ็ดบาทห้าสตางค์) ไม่เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคลภายนอก นำไปเรียกเก็บเงิน จนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
ร.ต.ท.พันธ์ชัย ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในตำแหน่ง ประธานสหสหกรณ์ออมทรัพย์ ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2559 และ ปี พ.ศ. 2563-2564 มีอำนาจลงนามร่วมกับผู้จัดการสหกรณ์ และเหรัญญิก สั่งจ่ายเช็คเพื่อกิจการภายในขอบวัตถุประสงค์ของสหกรณ์และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สั่งจ่ายเช็ค จำนวน 556 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 365,090,603.46 บาท (สามร้อยหกสิบห้าล้านเก้าหมื่นหกร้อยสามบาทสี่สิบหกสตางค์) ไม่เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคลภายนอก นำไปเรียกเก็บเงิน จนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับควาบความเสียหาย
ร.ต.ต.ชุณฐกฤตม์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ในตำแหน่ง เหรัญญิก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559-2560 มีอำนาจร่วมกับประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ และผู้จัดการสหกรณ์ สังจ่ายเช็คเพื่อกิจการภายในขอบวัตถุประสงค์ของสหกรณ์และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สั่งจ่ายเช็ค จำนวน 88 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 43,601,945.65 บาท (สี่สิบสามล้านหกแสนหนึ่งพันเก้าร้อยสี่สิบห้าบาทหกสิบห้าสตางค์) ไม่เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคคลภายนอก นำไปเรียกเก็บจนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
ดาบตำรวจสุทัศน์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ในตำแหน่ง รองประธาน ปี พ.ศ. 2562 มีอำนาจลงนามในเช็ค เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2562 เนื่องจาก พ.ต.อ.ชำนาญ ซึ่งเป็นประธานกรรมการ ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่จังหวังหวัดสตูล จึงเป็นเหตุให้ไม่มีผู้มีอำนาจลงนามในเช็ค และมีมติที่ประชุมประจำเดือน เม.ย. พ.ศ. 2562 ให้ ดาบตำรวจสุทัศน์ เป็นผู้มีอำนาจลงนามแทนประธานสหกรณ์ในการทำนิติกรรมสัญญาต่างๆ อีกทั้งมีอำนาจลงลายมือชื่อในการเบิกจ่าย ร่วมกับผู้จัดการ และเหรัญญิก สั่งจ่ายเช็คเพื่อกิจการภายในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์และเป็นไปตามข้อบังคับของสหกรณ์ ได้ร่วมกับ นางสาวสุภา สังจ่ายเช็ค จำนวน 14 ฉบับ รวมเป็นจำนวนเงิน 10,017,901.05 บาท (สิบล้านหนึ่งหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยหนึ่งบาทห้าสตางค์) ไม่เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ/หรือ บุคคลภายนอก นำไปเรียกเก็บเงิน จนเป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้รับความเสียหาย
จากพฤติการณ์ข้างต้น เป็นกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่รายการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ตามมาตรา 79(1) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 จึงให้
1.ลงโทษไล่ พ.ต.อ.ชำนาญ ออกจากราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่ 30 ก.ย. 2564 ซึ่งเป็นวันสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
2.ลงโทษไล่ พ.ต.ท.กฤติภัทร, ร.ต.อ.ธนเวทย์, ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อรุชา, ร.ต.ท.พันธ์ชัย, ร.ต.ต.ชุณฐกฤตม์, ดาบตำรวจสุทัศน์ ออกจากราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
