สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ว่า ดิษณายาเก ขึ้นสู่อำนาจเมื่อเดือนที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากความโกรธเคืองของสาธารณชนที่มีต่อวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2565 ซึ่งเขาให้สัญญาว่าจะพลิกกลับการปรับขึ้นภาษีที่สูงมาก, เพิ่มเงินเดือนของข้าราชการ และเจรจาเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มูลค่า 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 94,400 ล้านบาท) อีกครั้ง

ธนาคารโลกระบุในแถลงการณ์ว่า เงินกู้ดังกล่าวจะช่วยส่งเสริม “เศรษฐกิจที่เท่าเทียม” ของศรีลังกา ขณะที่ดิษณายาเก กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินกู้นี้จะสนับสนุน “การปฏิรูปเศรษฐกิจ” เพื่อเสถียรภาพ, การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการคุ้มครองประชาชนกลุ่มเปราะบาง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิษณายาเก อนุมัติการปรับโครงสร้างสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ต่างประเทศ มูลค่า 14,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 493,000 ล้านบาท) ซึ่งได้รับความเห็นชอบเบื้องต้นจากนายรานิล วิกรมสิงเห อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา

แม้ดิษณายาเก เรียกร้องการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขแพ็กเกจความช่วยเหลือให้ดีขึ้น แต่ภายหลังการเจรจากับคณะผู้แทนของไอเอ็มเอฟ ในกรุงโคลัมโบ รัฐบาลของเขาก็ระบุว่าจะเคารพข้อตกลงดังกล่าว

อนึ่ง ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2565 ท่ามกลางวิกฤติทางการเงินที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง และยาอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการประท้วงนานหลายเดือน จนประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ผู้นำประเทศในเวลานั้น ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อเดือน ก.ค. 2565.

เครดิตภาพ : AFP