ลิฟ ชมิดท์ อินฟลูเอนเซอร์สาวชาวอเมริกันวัย 22 ปี โดนแบนจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง “ติ๊กต็อก” ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากคลิปวิดีโอแนะนำการลดน้ำหนักที่เสี่ยงต่อสุขภาพและการอวดอ้างไลฟ์สไตล์การกินอาหารที่ผิดปกติว่าเป็นสิ่งที่ดี

ชมิดท์โดนวิจารณ์อย่างหนักจากคลิปวิดีโอแนะนำเมนูอาหารที่แทบไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการของเธอ โดยเฉพาะเมนู “อาหารเช้าของสาวผอม” ซึ่งมีเพียงโปรตีนผงชงดื่มและเครื่องดื่มบำรุงกำลัง

ในคลิปวิดีโอล่าสุดของเธอ ชมิดท์อวดกระโปรงตัวใหม่ที่เธออ้างว่าเพิ่งซื้อมาจากแผนกเสื้อผ้าเด็กของแบรนด์ “ซารา” ซึ่งมีราคาถูกกว่ากระโปรงแบบเดียวกันที่เป็นไซซ์ผู้ใหญ่ถึง 35 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,170 บาท) โดยชี้ว่าเคล็ดลับการ “ประหยัดเงิน” ที่ดีที่สุดคือการซื้อเสื้อผ้าเด็กมาสวม เพราะราคาถูกกว่ามาก ขณะเดียวกันก็เป็นการอวดรูปร่างของเธอว่าเล็กและผอมบางจนสวมเสื้อผ้าเด็กได้

@notlivsschmidt

The biggest money saving hack when shopping is childrens clothing like desginers have kids t shirts that are like $200 instead of $1000 like the adults – for a cute baby tee

♬ som original – ????????????????????????’???? – ????????????????????????’????????

หลังจากที่โดนวิจารณ์อย่างหนักเพราะคลิปนี้ ชมิดท์ที่เพิ่งเปิดบัญชีผู้ใช้ติ๊กต็อกบัญชีใหม่อีกครั้ง ก็นำหัวข้อเรื่องคนอ้วนในสหรัฐมาพูดถึง พร้อมกับเน้นเรื่องรูปร่างที่ผอมบางของเธอเสียยิ่งกว่าที่เคยทำในบัญชีเดิมของเธอ 

อินฟลูเอนเซอร์สาวหลีกเลี่ยงการโดนตรวจจับและสั่งแบนจากแพลตฟอร์มโดยสะกดคำว่า “ผอม” แบบผิด ๆ จาก Skinny เป็น Skinni และยังเคยโพสต์คลิปวิดีโอกล่าวอ้างว่าเธอโดนติ๊กต็อกแบนเพราะ “ผอมเกินมาตรฐาน” ของแพลตฟอร์ม

ขณะเดียวกันชาวโซเชียลในแพลตฟอร์มอื่น เช่น ผู้ใช้จาก “เอ็กซ์” ก็ออกมาวิจารณ์คำแนะนำแบบผิด ๆ ของเธอซึ่งถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาสุขภาพแก่ผู้ติดตามที่ยังเป็นเยาวชน บางรายมองว่าบางคำแนะนำบางอย่างของเธอก็มีประโยชน์ แต่บุคลิกส่วนตัวของชมิดส์ทำให้เธอดูเป็นคนนิสัยแย่เหมือนนางร้ายในภาพยนตร์ อีกทั้งยังกล่าวหาว่า ชมิดท์เคยเรียกผู้หญิงอีกคนที่กำลังรักษาตัวจากโรคการกินผิดปกติว่าเป็น “ยายอ้วน” 

ส่วนตัวชมิดท์เองนั้นยังคงปฏิเสธคำกล่าวหาว่าเธอเคยมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ โดยอ้างว่าเธอเข้าใจดีว่าความรู้สึกที่ไม่ชอบรูปร่างของตัวเองนั้นเป็นอย่างไรจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยป่วยเป็นโรควิตกกังวลตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : TikTok / notlivsschmidt