เบลค มูนีย์ ลูกชายของชายวัย 80 ปีคนหนึ่งเผยเรื่องราวที่น่าตกใจเมื่อเขาเข้ามาดูแลเรื่องการเงินของผู้เป็นพ่อที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม

มูนีย์พบว่าพ่อของเขาเพิ่งจ่ายเงินจำนวน 8,495 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 284,098 บาท) ผ่านบัตรเครดิตให้บริษัทจัดหาคู่ชื่อว่า “แมตช์เมคกิง” เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2567

แต่พ่อของเขาอายุ 80 ปีแล้วและพักอยู่ในสถานรับดูแลผู้ป่วยสูงอายุในเขตเลค เคาน์ตี รัฐฟลอริดา ส่วนตัวมูนีย์นั้นมีบ้านอยู่ไกลออกไปหลายร้อยไมล์ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา

มูนีย์สันนิษฐานว่าพ่อของเขาซึ่งปัจจุบันเป็นพ่อม่าย ไปเจอเว็บไซต์ของบริษัทนี้โดยบังเอิญซึ่งโฆษณาว่าสามารถช่วยให้ลูกค้าพบ “รักแท้ที่ยั่งยืน” จึงตัดสินใจเรียกรถโดยสารจากแอปอูเบอร์เพื่อเดินทางไปยังสำนักงานของบริษัทแมตช์เมคกิงที่เมืองวินเทอร์พาร์ค รัฐฟลอริดา แล้วเซ็นสัญญาซื้อแพ็กเกจแนะนำหญิงสาวจำนวน 12 คนเพื่อเป็นคู่เดทในราคา 8,495 ดอลลาร์สหรัฐ

มูนีย์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า พ่อของเขาไม่มีทางไปออกเดทได้ เขาเป็นโรคสมองเสื่อม และเมื่อเขาพยายามคุยกับพ่อถึงเรื่องนี้ พ่อของเขากลับจำอะไรไม่ได้เลย เขายังเสริมว่า แม้อาการโรคสมองเสื่อมของพ่อของเขายังมีไม่มาก และอาจสังเกตไม่เห็นในทันที แต่เมื่อพูดคุยไปได้สักพักก็จะรู้ได้ว่าพ่อของเขาเป็นผู้ป่วย

มูนีย์ชี้ว่า ถ้าหากพูดคุยกับพ่อของเขาถึงเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขและวันที่ พ่อของเขาจะไม่เข้าใจเลย อีกทั้งจำอะไรไม่ได้ด้วย นอกจากนี้ ข้อมูลจากใบสมัครสมาชิกจากบริษัทหาคู่ดังกล่าว ยังระบุปีเกิดของพ่อของเขาว่าเป็นปี 2465 ซึ่งเท่ากับว่าตอนที่สมัคนแพ็กเกจ พ่อของเขามีอายุ 102 ปีตามการรับรู้ของบริษัท

เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้น มูนีย์พยายามติดต่อบริษัทจัดหาคู่ทุกวิถีทางเพื่ออธิบายสถานการณ์และขอเงินค่าสมัครคืน เขาเล่าว่าตัวเองโทรศัพท์ติดต่อไปไม่ต่ำกว่า 50 ครั้งในช่วง 2 วันแรก แต่กลับพบเพียงเสียงตอบรับของระบบฝากข้อความและมีอีกหลายครั้งที่ไม่มีพนักงานบริษัทมารับสายของเขา นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีท่าทีว่าจะคืนเงินค่าสมัครของพ่อของเขาด้วย

หลังจากมูนีย์ติดต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ สำนักข่าวนิวส์ 6 ได้ส่งนักข่าวไปยังบริษัทดังกล่าวที่สำนักงานในวินเทอร์พาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่พ่อของมูนีย์ไปเซ็นสัญญา และสอบถามเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่าไม่มีพนักงานคนใดที่สามารถตอบคำถามของนักข่าวคนนี้ได้ 

แต่หลังจากที่นักข่าวไปปรากฏตัวที่บริษัทไม่นานนัก มูนีย์ก็ได้รับการติดต่อจาก เชส โอเวอร์สตรีท ที่ปรึกษาของบริษัทหาคู่และบอกว่าบริษัทจะไม่คืนเงินหรือชดเชยเงินค่าสมัครของพ่อของเขา โดยอ้างว่าได้โทรฯ ถามพ่อของเขาแล้ว และพ่อของเขาบอกว่าเขาไม่ได้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม

เนื่องจากมูนีย์เป็นผู้รับมอบอำนาจของพ่อ เขาจึงมีสิทธิตัดสินใจทางกฎหมายและการเงินแทนพ่อได้ ซึ่งเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเอาเรื่องกับบริษัทหาคู่แห่งนี้ ต่อมา เขาก็ได้รับเอกสารคู่สัญญาที่พ่อของเขาเซ็นชื่อไว้ที่มีข้อความระบุว่า พ่อของเขามีเวลา 3 วันในการบอกยกเลิกสัญญาและได้รับเงินคืนเต็มจำนวน พร้อมทั้งเงื่อนไขที่ระบุว่าสามารถยกเลิกสัญญาได้ ถ้าหากมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าลูกค้าไม่สามารถใช้บริการของบริษัทได้

มูนีย์ชี้ว่าบริษัทบีบให้เขาต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม เขาได้ติดต่อไปยังแพทย์ประจำตัวพ่อของเขาและขอจดหมายรับรองว่าพ่อของเขาเป็นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมซึ่งมี “บกพร่องทางการรับรู้ที่ส่งผลต่อความจำ การใช้เหตุผลและการตัดสินใจอย่างรุนแรง” และสรุปว่าพ่อของเขาไม่มีความสามารถที่จะ “ตัดสินใจอย่างถูกต้อง” ในการใช้บริการของบริษัทจัดหาคู่ 

เมื่อบริษัทจัดหาคู่ได้รับจดหมายแล้ว ก็คืนเงินให้มูนีย์เป็นจำนวน 5,953 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 199,118 บาท) ซึ่งน้อยกว่าจำนวนเงินที่จ่ายจริง มูนีย์กล่าวว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายทางการเงินสำหรับพ่อของเขา สถานการณ์คงจะแย่กว่านี้ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ตรวจสอบแล้วพบเรื่องนี้เสียก่อน 

ด้านบริษัทจัดหาคู่ไม่ได้แถลงการณ์โต้ตอบใด ๆ อย่างเป็นทางการ รวมทั้งไม่ให้คำอธิบายว่าทำไมจึงไม่ยอมคืนเงินตามจำนวนเต็ม 

ที่มา : dailymail.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES