เมื่อวันที่ 6 ต.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยผลการจับกุม น.ส.น้ำหนึ่ง อายุ 47 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงดุสิตที่ จ.174/2567 ลงวันที่ 27 ก.ย. 67 ข้อหา “ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบ เครื่องหมายยศของเจ้าพนักงาน แต่งเครื่องแบบและเครื่องหมายยศเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ”

โดยชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง บริเวณถนนลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. พร้อมยึดของกลาง 1.ชุดปกติขาวพร้อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 1 ชุด 2.เสื้อคลุมสีดำ ปักคำว่า รัฐสภา 1 ชุด 3.เสื้อคลุมสีดำ ปักคำว่า สำนักนายกรัฐมนตรี 1 ชุด 4.บัตรตัวแทนพรรคการเมืองชื่อดัง 1 ใบ 5.รถยนต์โตโยต้า คัมรี่สีเทา 1 คัน (รถเช่า)

พฤติการณ์กล่าวคือผู้ต้องหารายนี้มีประวัติก่อเหตุฉ้อโกงมา 14 คดี ตั้งแต่ปี 2553 โดยเริ่มจากการแอบอ้าง ว่า เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ตระเวนรับเงินค่าจ้างแล้วไม่ทำงานหลายราย จนกระทั่งปี 2560 เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ฉ้อโกงเป็น “การแอบอ้าง” โดยอ้างเป็นคนสนิทอธิการบดีมหาวิทยาลัย หลอกลงทุนหุ้น ลงทุนเปิดร้านค้าในมหาวิทยาลัย จนเมื่อเข้าสู่ห้วงปี 64 เริ่มแอบอ้างเป็นคนสนิทระดับนายกรัฐมนตรี หลอกลวงจะวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งในสำนักนายกรัฐมนตรี หลอกจะวิ่งเต้นให้เป็นผู้ช่วย สว. จนถึงหลอกลวงลงทุน “บัตรลุงตู่พลัส” จนล่าสุดสวมชุดขาวติดเครื่องราชฯ เดินเข้ามาในรัฐสภาในทุกสมัยการเปิดประชุมสภา จนกระทั่งได้มีสมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่งได้กล่าวในที่ประชุมเพื่อหารือเรื่องของมิจฉาชีพรายนี้กลางสภา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 โดยกล่าวถึงมิจฉาชีพรายนี้ว่าแอบแฝงเข้ามาในรัฐสภา ทำการตีสนิทกับ สว. และ สส. หลายท่าน ก่อนที่มิจฉาชีพรายนี้จะทำการแอบอ้างถึงบุคคลสำคัญ เช่นตนเองเคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี, อ้างว่าตนเองเป็นลูกบุญธรรมของภรรยาของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา, อ้างว่าตนเป็นญาติกับภรรยาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล, อ้างว่าตนเป็นคนสนิทของ นายเนวิน ชิดชอบ

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมแต่งชุดขาวพร้อมติดเครื่องราชฯ ทั้งที่ไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ เข้าไปถ่ายรูปคู่กับหลายๆ คนภายในรัฐสภา โดยอ้างว่าตนเป็นข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งต่อมาตรวจสอบจนทราบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จนเจ้าหน้าที่ของรัฐสภาต้องติดประกาศห้ามเธอเข้าพื้นที่ ซึ่งต่อมาเธอก็ได้ถูกพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ออกหมายจับ จึงหลบหนีไป

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงเร่งสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดไล่ล่าติดตามตัวทันที และสืบทราบว่าผู้ต้องหาตระเวนเช่าห้องพักรายวันอยู่ในละแวกถนนลาดกระบัง โดยจะเปลี่ยนที่พักทุกๆ วันไม่ให้ซ้ำ กระทั่งวันที่ 5 ต.ค. ชุดจับกุมสามารถจับกุมตัวได้ ซึ่งหลังการจับกุมชุดสืบสวนได้ขยายผลตรวจค้นพบ ชุดข้าราชการ (ชุดขาว) ติดเครื่องราชฯ, เสื้อคลุมตราสำนักนายกรัฐมนตรี, เสื้อคลุมตรารัฐสภา, บัตรตัวแทนพรรคการเมือง ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์เช่า และจากการตรวจสอบโทรศัพท์พบภาพถ่ายคู่กับนักการเมืองชื่อดังหลายท่าน มีภาพถ่ายการสวมชุดข้าราชการ (ชุดขาว) หลายภาพ

ในชั้นจับกุม น.ส.สุวดี หรือ “น้ำหนึ่ง” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ทางคดีตนเองได้นำเครื่องแบบของเพื่อนมาสวม โดยที่ปรากฏภาพที่ไปถ่ายชุดขาวกับคนอื่นๆ ในรัฐสภา เป็นเพราะวันนั้นตนเองลองสวมดูเฉยๆ ตั้งใจจะไปถ่ายภาพเพื่อนำไปสมัครเป็น สส. โดยต้นเหตุที่ตนโดนคดีมาจากการถูกกลั่นแกล้งจาก สว.ชาย ท่านหนึ่งที่มีปัญหากับตนเพราะเข้าใจว่าตนเป็นสาเหตุให้ สว. ท่านนั้นเลิกกับภรรยา จึงเดินหน้าหาเรื่องตน ส่วนที่บอกว่าตนเองสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นเพราะตนเองเคยช่วยหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐและได้ถ่ายภาพคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ หลายครั้งแต่ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะรู้จักตนเองหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เคยไปทำอะไรเสียหายให้กับ สว. และ สส. ในสภา แต่คดีฉ้อโกงที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่จบไปแล้วเพราะตนนำเงินไปคืนให้กับผู้เสียหาย แต่ยังมีคดีที่อยู่บนศาลคือที่ไปหลอกลวงลงทุน “บัตรลุงตู่พลัส” ความเสียหาย 1,700,000 บาท ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างการสู้ชั้นอุทธรณ์ยืนยันว่าตนเองไม่เคยไปแอบอ้างไปอวดเบ่งผู้ใด แต่ถ้ามีคนบอกว่าตนเองเคยไปแอบอ้างตนยินดีไปพูดคุยกับทุกคน

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพฤติกรรมที่ได้ข้อมูลประวัติคดี ข้อมูลจากการสืบสวนค่อนข้างมีทิศทางตรงข้ามกับคำให้การของผู้ต้องหา จากประวัติต้องคดีของผู้ต้องหารายนี้นับว่าก่อคดีมามาก ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคดีในข้อหา ฉ้อโกง แต่จากพฤติการณ์แล้วจะเห็นว่าผู้ต้องหานั้นไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ มีพฤติกรรมเข้าไปในสภาถือว่าผู้ต้องหาล่าสุดได้ถูกออกหมายจับในเรื่องของการสวมเครื่องแบบและเครื่องราชฯ ซึ่งในทางคดีนั้นพยานหลักฐานและยังพบว่ามีการกระทำเช่นนี้หลายครั้ง ซึ่งหลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด ขอประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า น้ำหนึ่ง หลอกลวงไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ดำเนินคดีต่อไป.