นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเทศกาลกินเจต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ตลาดค้าปลีกค้าส่ง ตลาดสด และล่าสุดได้ติดตามสถาณการณ์ที่ห้างบิ๊กซี สาขาติวานนท์ โดยพบว่าห้างได้นำสินค้าเข้าร่วมรายการ “พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด” เป็นจำนวนมาก โดยบางสินค้าลดราคามากกว่า 50% หรือซื้อ 1 แถม 1 ทำให้ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้า ต่างพึงพอใจ และบอกว่าลดค่าครองชีพในช่วงเทศกาลกินเจได้จริง 

สำหรับสินค้าที่ห้างนำมาลดราคา แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ โดยกลุ่มที่เป็นวัตถุดิบหลักเช่น ผัก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารเจ และกลุ่มสินค้าเครื่องปรุง เพื่อนำไปใช้ประกอบอาหาร โดยมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย และมีลดราคาเหมาะสม จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนที่รับประทานเจในช่วงเทศกาล สามารถไปเลือกซื้อสินค้าได้ที่ห้างบิ๊กซี ไม่ใช่เฉพาะที่สาขาติวานนท์ แต่สามารถซื้อได้ที่ห้างบิ๊กซีทั่วประเทศ และห้างอื่น ๆห้างท้องถิ่น ที่ได้ร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงตลาดกลาง ตลาดสด 

“ประเมินว่าการจัดโครงการ พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด ในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 2,250 ล้านบาท และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อสายจีน และประชาชนที่ต้องการบริโภคเจในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้เบาใจได้ว่าสินค้ามีเพียงพอ และราคาทรงตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ไม่ขาด ไม่แพงตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหลาย ๆ รายการ ที่มาเข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดราคาลงเป็นอย่างมากด้วย”นายวิทยากรกล่าว

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือการเอาเปรียบทางการค้าสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศโดยขอย้ำเตือนว่าการกระทำแบบนี้ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

อย่างไรก็ตาม เทศกาลกินเจปีนี้ ถือว่า มีความคึกคักเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งมาจากพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ได้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ถือว่า นโยบายรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดผลในทางปฏิบัติจริง และในวันที่ 16 ต.ค.2567 ที่จะถึงนี้ รัฐบาล โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี จะมีการเปิดโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจสำคัญ โดยจะมีกิจกรรมต่าง ๆมากมาย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจไปจนถึงเดือน ม.ค.2568 ขอให้ติดตามกัน