จากกรณีเพจดังเจ้ม้อย V+ โพสต์เรื่องราวในโลกออนไลน์ว่า “ตำรวจนำรถบัสนักเรียนแล้วตำรวจหักหลบกะทันหัน มอเตอร์ไซค์ที่กำลังขับมาเบรกและชนกันเอง แล้วตำรวจก็จะขับรถไปต่อ คนขับรถเลยขับตามไปแล้วคุยกับตำรวจ ทางตำรวจบอกมีคลิปพอถอดเมมก็ไม่เจออะไรเลย ทางคนขับมอเตอร์ไซค์โมโหจึงต่อยตำรวจ และพังรถตำรวจ โดยยอมรับผิดในส่วนที่ทำร้ายตำรวจ ส่วนคนขับจยย.รถพังบาดเจ็บที่หัวเข่า จริงเท็จอย่างไรรอดูต่อไป” ต่อมา ส.ต.ท.วิโรดม ณ ใจบุตร เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อเอาผิดกับชายดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจ นายสหภาพ โมราวรรณ อายุ 26 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันโบลท์ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุขณะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณวงศ์สว่างซอย 10 จู่ๆ มีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคาดว่าเป็นรถส่วนตัว ปิดเส้นทางจราจรกะทันหัน ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในเลนซ้าย มีรถจักรยานยนต์ชนกันถึง 3 คัน รวมถึงรถของตนเองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โชคดีที่ผู้โดยสารกระโดดลงจากรถก่อนจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

นายสหภาพ กล่าวต่อว่า ตำรวจผู้ก่อเหตุกลับขับรถออกไปตามปกติโดยไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุหลายคนในบริเวณนั้นแนะนำให้เขาขับรถตามไปพูดคุยกับตำรวจ เมื่อไปถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นกลับไม่สนใจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตอบว่าให้ไปแจ้งความในพื้นที่เอง ซึ่งรู้สึกว่าเป็นการปัดความรับผิดชอบ และยิ่งทำให้โกรธ เพราะคิดว่าหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกว่านี้ เช่น มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ตำรวจก็จะยังไม่รับผิดชอบเช่นเดิม

กลัวที่ไหน? หนุ่มไรเดอร์สุดกร่างรถชนแล้วพาล เตะต่อย ‘ส.ต.ท.’ ขับนำขบวนรถบัสนักเรียน

ในขณะนี้คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่ถ่ายไว้กำลังถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลมีเดีย หลายคนได้ตำหนิเขาที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายสหภาพ ยอมรับว่า เข้าใจและไม่กังวล เพราะเชื่อว่าความจริงของเรื่องนี้จะปรากฏผ่านหลักฐานที่เขามีอยู่ โดยในคลิปจะชี้ให้เห็นว่าใครเป็นฝ่ายผิดกันแน่

นายสหภาพ ยังตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการปฏิบัติหน้าที่นำขบวน ซึ่งเขายังไม่แน่ใจว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ และต้องการให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบ หากสามารถไกล่เกลี่ยได้ เขาพร้อมที่จะขอโทษและชดใช้ค่าเสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับผิดชอบค่าเสียหายของรถจักรยานยนต์ของเขาด้วยเช่นกัน

เบื้องต้น นายสหภาพ ได้เปิดคลิปเหตุการณ์ที่ถ่ายไว้ให้ผู้สื่อข่าวดู และได้นำคลิปดังกล่าวไปมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป.