สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า สเปนต้อนรับนักท่องเที่ยว 10.9 ล้านคน เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา และตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ในเดือน ส.ค. โดยเพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนปี 2566 ถึงร้อยละ 7.3

อย่างไรก็ตาม ชาวสเปนจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่พอใจ ต่อจำนวนนักท่องเที่ยวซึ่งหลั่งไหลเข้ามา “มากเกินไป” โดยเฉพาะที่เมืองบาร์เซโลนา, เมืองมาลากา ในแคว้นอันดาลูเซีย, หมู่เกาะแบลีแอริก และหมู่เกาะคานารี ทำให้โครงสร้างพื้นฐานแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยว, มลพิษ และมลพิษทางเสียง

มากไปกว่านั้น ประชาชนแสดงความโกรธแค้นต่อราคาค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากอาคารที่พักอาศัยหลายแห่งเน้นปล่อยเช่าระยะสั้นให้แก่นักท่องเที่ยว ขณะที่บางพื้นที่ เช่น บาร์เซโลนา ประกาศยุติให้นักท่องเที่ยวเช่าอพาร์ตเมนต์ ในปี 2572

นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางเข้าสเปนมากที่สุด มาจากสหราชอาณาจักร 4.17 ล้านคน รองลงมาได้แก่ ฝรั่งเศส 3.75 ล้านคน, เยอรมนี 2.49 ล้านคน และอิตาลี 1.35 ล้านคน ด้านนักท่องเที่ยวจากสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เป็น 850,000 คน

โดยรวม มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 64.8 ล้านคน ตลอดช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ สร้างรายได้ให้แก่สเปนราว 86,700 ล้านยูโร (ราว 3.1 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 และคิดเป็นการใช้จ่ายต่อนักท่องเที่ยว 1 คน ที่ 187 ยูโรต่อวัน (ราว 6,834 บาท)

ตามข้อมูลขององค์กรกลุ่มการท่องเที่ยวหลักของสเปน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 90 ล้านคน ภายในปีนี้ แซงหน้าสถิติ 85.1 ล้านคน เมื่อปี 2566 และรายได้จากการท่องเที่ยวอาจทะลุ 200,000 ล้านยูโร (ราว 7.31 ล้านล้านบาท) เพิ่มการสนับสนุนของภาคการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ ถึงร้อยละ 13.2.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES