เรียกได้ว่าเป็นสองพี่น้องคู่แฝดคนบันเทิงสายบุญที่ทำเพื่อสังคมมาอยู่เสมอ สำหรับ “ฝันดี-ฝันเด่น จรรยาธนากร” ที่นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว ทั้งคู่ยัทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือสังคมอีกด้วยนั้น ซึ่งตั้งแต่เกิดวิกฤตอุกทกภัยอย่างหนักทางภาคเหนือ สองพี่น้อง ฝันดี ฝันเด่น ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

โดย ฝันดีและ ฝันเด่น ได้ออกมาเปิดใจหลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านรายการคุยแซ่บShow และพูดถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสในฐานะกู้ภัย และเรื่องลี้ลับที่ทำให้เกิดนิมิตรทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม โดย ฝันเด่น เผยว่า

“เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส ตอนแรกที่เขาส่งมาใน LINE ปกติเราอยู่ใน LINE กู้ภัยอยู่แล้ว ฉะนั้นภาพต่างๆที่ส่งมาตอนแรกยังไม่รู้เลย ก็แค่เป็นรถบัส แล้วก็มีไฟไหม้ ก็โอเคก็เป็นเหมือนปกติที่เราเห็นรถบัสไฟไหม้ แต่พอภาพต่อมานั้นก็คือในเรื่องของการที่มีเด็ก เด็กน้อยผู้หญิงที่ออกมาแล้วตัวเบิร์น แล้วก็ส่งไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น กลายเป็นว่ารถบัสทัศนศึกษา แต่ตอนนั้นก็คิดว่าน่าจะเอาลงมาหมด แต่พอภาพที่หลังจากนั้นออกมาปุ๊บกลายเป็นอย่างที่เราเห็น คือจริงๆแล้วเนี่ย มันน่าจะไล่ไปถึงระบบความปลอดภัยในขั้นพื้นฐานทั้งหมด คือมาตรการการตรวจสอบรถสาธารณะในรูปแบบต่างๆ เพราะว่าถ้าจะให้แต่ประชาชนที่มาใช้บริการ หรือว่าในรูปแบบเช่าเหมาลำ แล้วต้องมาเรียนรู้ เขาไม่ได้มีความใส่ใจมาก ต้องพูดกันตรงๆนะ ไม่ใช่หน้าที่ มันจะต้องเป็นความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอย่างที่ใหญ่บอก แต่มันต้องไปตั้งแต่การตรวจรถเลยว่ารถที่จะมารองรับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือใครก็แล้วแต่ มันต้องอยู่ในมาตรฐานสากล ที่เท่าเทียมกัน ไม่ใช่ว่าเป็นคนโตจะต้องมาตรฐานนี้ เป็นเด็กจะต้องมาตรฐานนี้ จริงๆมาตรการเหล่านี้ มันมีการเรียนรู้มาในโลกใบนี้มาตลอดนะ มันไม่ใช่ว่าจะต้องมาเกิด ที่เมืองไทยแล้วค่อยไปแก้ระบบโลก โลกเขาพัฒนาการกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เราถอดบทเรียนกันมาซะจน บทเรียนที่ว่าเนี่ยหนาเป็นเล่มแล้ว แต่มันใช้ได้ไหม ไม่ใช่เป็นอย่างนี้ คือความปลอดภัยไม่ได้อยู่ที่ราคาของมูลค่าพาหนะ ถูกไหม ก็นั่นเป็นเครื่องบิน เอ้า แล้วคนที่นั่งรถบัสหรือสองแถวหรือแท็กซี่ เขาก็มีชีวิตเหมือนกัน ฉะนั้นเนี่ย คำว่ามาตรฐานต่อชีวิต ของผู้โดยสารเนี่ย มันควรที่จะต้องเท่าเทียมกัน สวิทช์การปิดเปิดเนี่ยนะ เวลาประตูฉุกเฉินเนี่ย มันจะควรอยู่ในจุดจังหวะที่ สามารถที่ดึงคัดโยกเดียวแล้ว จะผลักดันออกไปเลยก็ได้ ในส่วนของคนขับ สามัญสำนึกของคนไม่เท่ากัน ความตกใจของคนไม่เท่ากัน สติไม่เท่ากัน ต่อให้เราใจแข็งนะ เจอ Body มาเยอะ วันนึงเนี่ยถ้าเกิดเจอ Body เยอะๆ หรือผู้ได้รับบาดเจ็บเยอะๆ ยังรนเลยนะ ขนาดว่าเราก็แกร่งแล้ว

ฝันดี : ถ้าสมมุติ เจอเหตุการณ์หรือภาพที่เป็นการสูญเสียแบบนี้ จะไม่ให้ในกลุ่มแชร์หรือเอาภาพที่เป็น Secret พวกนี้ออกไป เพราะว่ามันกระทบกระเทือนจิตใจ แล้วมันเป็นภาวะที่ ไม่ใช่ที่เราจะมาเรียกยอดไลค์ยอดแชร์ มันคือการที่เราจะต้องคิดแล้วว่าเราจะต้องช่วยเขายังไงมากกว่า วิธีการป้องกันตัวเองในฐานะนักกู้ภัย การที่เราจะทำอะไรต่างๆเนี่ย เราจะต้องรู้ก่อนว่า สิ่งที่เรากำลังไปอยู่ตรงนั้นน่ะ มีแบบไหน เป็นอย่างไร อย่างเช่นถ้าสมมุติเป็นรถเนี่ย ประตูล็อคเปิดปิดยังไง บางคนอาจจะมองพวกนี้เรื่องเยอะ แต่มันคือสิ่งสำคัญ มีค้อนทุบกระจกไหม หรือว่าเขามีเซฟตี้แบบว่าพอคันโยกปุ๊บ ประตูทั้งหมดจะเปิดได้หรือเปล่า นี่คือสิ่งสำคัญมาก ประตูทางออกทางด้านซ้ายทางด้านขวา การเดินไปทางนี้อย่างไรเนี่ยคือสิ่งสำคัญ

ฝันเด่น : “สถานการณ์อัพเดทเลย ถ้าเราเรียนรู้กันในเรื่องของภัยพิบัติ ตอนนี้กลุ่มเมฆฝนก็จะอยู่ ทางด้านบน แต่ก็ขยับลงมาแล้ว ฉะนั้นทางเชียงรายเองเนี่ย ก็จะตกจนถึงพรุ่งนี้ แล้วจะขยับลงมาทางด้านทิศตะวันตก จังหวัดตากกาญจนบุรี แถวนั้นก็จะตกมากขึ้น แล้วก็จะไล่ลงมาทางภาคอีสาน ฉะนั้นเนี่ยก็จะย้อนกลับมาก่อนที่จะไปจนถึงจุดตรงภาคอีสาน ตอนนี้ทางเหนือหนักมาก หนักซะจนที่เมื่อคืนเนี่ยขนาดฝนตกไม่เท่าไหร่ สะสมประมาณ 180 มิลลิเมตร ถึง 200 ปุ๊บ น้ำก็ลงมาอีกแล้วคือมันแบ่งเป็น 2 ช่วงนะ ช่วงที่เป็นการอพยพเนี่ยที่เราจะต้องเข้าสู่พื้นที่ในการอพยพ ในเพจเราเวลาเข้าสู่พื้นที่คนก็จะรู้ว่าเรามีเรือนู่นนี่นั่น เขาบอกว่าอยากให้เข้าไปช่วย แล้วเวลาช่วงค่ำคืนน้ำมันก็จะแรงเป็นปกติของมัน ฉะนั้น พอเวลาเราเข้าไปเนี่ย เราแบ่งเรือออกเป็น 2 ลำ ลำนึงเป็นเรือกู้ภัย อีกลำหนึ่งเป็นเรือชาวบ้านที่เป็นเรือประมงเรือตกปลา ก็จะเป็นคนที่เป็นพื้นถิ่นอยู่ เราก็แยกกัน เพราะว่าเราดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรมาก ขาจะกลับเนี่ยนะ เขาบอกว่ามีเด็ก เขาบอกว่ามีเด็กหรือมีประชาชนที่ติดอยู่ที่โรงเรียนสหศาสตร์ถ้าจำไม่ผิด ก็เลยให้เขานำพาเข้าไป เพราะประชาชนเต็มลำนั้นแล้ว แล้วเขาอยู่มาตั้งหลายวันแล้ว เรายอมที่จะให้เขาไป ไม่ได้พูดเพื่อหล่อนะแต่มันคือเหตุการณ์นั้น เพื่อที่จะให้คนดูว่า คนที่เขาคอมเมนต์มาว่าให้ไปดูที่โรงเรียนนี้หน่อยเพราะมีคนติด เราไม่ได้ไลฟ์สดว่าสร้างภาพแต่เราไลฟ์สดว่าเรากำลังไป พอไปปุ๊บเนี่ยในจังหวะที่มันเลี้ยวขวาปุ๊บติดผนังโรงเรียนแล้ว แม่น้ำกกอยู่นั้นน้ำแทงเข้ามา พอเลี้ยวปุ๊บเรือเสียสมดุล พอเสียสมดุลปุ๊บน้ำมันก็กดเรือ น้ำก็เข้า แล้วมันก็เลยผลักเรือไปฟาดกับต้นไม้มันอยู่ในโรงเรียน แต่ประเด็นตอนนั้นอ่ะไม่มีทางรู้เลยเพราะว่าน้ำเนี่ยมันมืดเพราะว่าไฟทั้งหมดมันถูกตัด แต่พอหลังจากที่เรา เรือมันจมลงใช่ไหม แต่มันจะโผปริ่มเพราะเรือพวกนี้มันถูกออกแบบมาไม่ให้จมหาย มันจะปริ่มอยู่ที่ตรงนั้น เราก็โดดลงไป มันก็จะประมาณนี้(เอว) แต่เราต้องยืนต้านกระแสน้ำนะเพราะว่าน้ำมันแรงมาก แต่มันก็จะพัดออกไปตามนู่น ซึ่งโรงเรียนเนี่ยก็จะห่างจากแม่น้ำออกไป คือมันไม่ไกลกันก็เป็นไปได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันอยู่ที่ภาวะตรงนั้น ทำกู้ชีพกู้ภัยมาทั้งหมด 20 กว่าปีแล้ว (ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเสี่ยงที่สุดเลยไหม?) อัตราความเสี่ยงแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน แต่ครั้งนี้มันเป็นความแปลกใหม่เพราะว่าน้ำท่วมปกติที่เจอจะเป็นน้ำใส น้ำขุ่นบ้าง แล้วก็ไม่เยอะ ถึงจะเอ่อเยอะก็ไม่ได้มีอะไร แต่เนี่ยมีความรุนแรงของน้ำอย่างต่อเนื่อง ก็ถือว่าใช้ได้เลย ในจุดนั้นนอกเหนือจากสึนามินะ แต่ตอนน้ำท่วมยังพอเข้าใจได้ว่าน้ำเต็มอยู่ แต่หลังจากนั้นลดที่ผมไปฟื้นฟู โศกนาฏกรรมทางภัยพิบัติ ต้องใช้คำนี้เพราะว่าอะไรรู้เปล่า นั่งอยู่เนี่ยดินโคลนท่วมชั้น 2 โคลน แล้วเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างทรัพย์สินเงินทองคุณอยู่ ในโคลนหมดเลย แล้วยืนร้องไห้แล้วเข้าบ้านไม่ได้ แล้วประเด็นที่เราพูดคือมันเป็นเรื่องของความรู้สึก บางคนก็ทำมาทั้งชีวิต แล้วมันเหมือนโดนน้ำแล้วมันละลาย เหมือนป๊อกเด้งอ่ะพี่ น้ำท่วมก็หน้า 9 แล้ว พอน้ำลงเจอโคลนอีก มันป๊อก 2 เด้ง แต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างนี้ยังพอฟื้นฟูได้ พวกไม้ฟูกละลายเริ่มต้นใหม่ ไฟฟ้าตู้เย็นลอยขึ้นไปนู่นนั่นนี่ เห็นข่าวที่ว่ามันหมดแล้ว ได้เห็นคำว่าหมดตัวแล้วของจริงเลย ในภัยพิบัติครั้งนี้ เป็นครั้งที่ผมรู้สึกว่า ผมเสียน้ำตาให้กับครั้งนี้มากที่สุด เพราะปกติผมเป็นคนใจแข็งมาก ถุงยังชีพเยอะ ในมุมของผม ที่สิ่งที่ต้องดำรงอยู่คือฟูกเขาหายไปแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าเขาหายไปแล้ว สิ่งเหล่านี้แหละเราจะประคับประครองเขายังไง

ฝันดี : จากเหตุการณ์ที่มันซ้ำซ้อน ก็คือท่อน้ำที่อยู่ในตัวเมืองทั้งหมด มันถูกดินโคลนอุดรูหมดแล้ว มันก็เหมือนเป็นหน้ากระดาน ฝนตกลงมาเนี่ยมันก็ขึ้นได้เลย แล้วมันก็จะไหลแรง ก็คือตอนนั้นใหญ่อ่ะอยู่ในส่วนของเป็นแอดมินกำลังติดตาม มีอะไรจะ Contact กัน พอเสร็จปุ๊บ ผมก็เอะใจละ เรือกู้ภัยอ่ะเล็กไม่นั่งแต่ไปนั่งเรือหาปลา แต่เราแค่เอะใจว่า เราเคยถูกฝึกมาว่าถ้าเรือหรือว่าอะไรก็ตาม ไม่ได้คุ้นมือหรือคุ้นทีมเรา เราจะไม่ไป แต่พอเล็กเขานั่งไปเราก็ แล้วมันก็ค่อยๆจมลง น้ำก็กระแทกใส่เรือมีดินโคลนทราย เข้าตาก็ไม่ได้ เพราะว่ามันจะเป็นเม็ดทรายละเอียด พื้นจะเต็มไปด้วยดินโคลนแล้วมันจะดูดเท้า ทุกห้องทุกอณูที่มีช่องว่างโคลนดินทั้งหมดจะเข้ามาอยู่ในนั้นทั้งหมด แล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหลือ ณ วันนี้คนยังรอการช่วยเหลืออีกเยอะมาก ไม่ใช่ว่าจะต้องมารอเรา แต่เขายังรออยู่เสมอ เพราะว่าดินโคลนยังอยู่ในบ้าน ตอนที่เราเดินทางกลับเมื่อ 2 วันที่แล้ว แล้วเราก็แวะเอาเครื่องหาบหามไปให้น้องกู้ภัยได้ฝึก เพื่อจะได้ใช้เคลียร์พื้นที่ ไปเจอบ้านหลังหนึ่งที่เป็นคาเฟ่ 3 อาทิตย์แล้วดินยังอยู่ในบ้านเหมือนเดิม แล้วต้องจ้างรถไถ ไถแต่ข้างนอกแต่ข้างในดินยังพังทลายอยู่ในห้องทั้งหมด เราถูกปลูกฝังมาห้ามแสดงความอ่อนแอ บางทีเราไลฟ์อยู่ถึงได้หันหน้าหนี

มีเซ้นต์ของภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ รู้สึกตั้งแต่ต้นปีแล้วว่าจะมีเรื่อง?
ฝันดี : คือผมกับเล็กพยายามจะบอกพูดถึงเรื่องนี้มานานมาก เด็ก ๆ คือหลัง ๆ เราทำทีมขึ้นมามันจะมีเซ้นต์บอกว่าเออคนนี้ไปทำเรือ ทำอย่างอื่นๆ แล้วก็ได้ใช้อีกหนึ่งเดือน อันนี้เหมือนกันเราก็บอกว่าเตรียมตัวไว้นะตั้งแต่กลางปี แยกเป็นสองอย่างนะ คือตัวผมมีอาชีพเป็นนักแสดงและบุคคลสาธารณะ แล้วถ้าผมพูดเรื่องนี้ไปเขาก็จะบอกว่าเราอยากจะดังสร้างตัวเองแต่เราก็บอกในกลุ่มที่เชื่อในเรื่องนี้ เราเตือนภัยให้ระมัดระวัง ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และไม่อยากจะฟันธงเลยคือไฟสีแดง ผมตอบไม่ได้ แล้วผมก็ไม่อยากจะบอกเลย ในนิมิต คือถ้าเกิดแบบนี้ เขาให้ระวังตัวไว้หน่อย ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ด้วย (รูปลักษณ์ที่มาเตือนว่าจะเกิดอะไรขึ้น?) ตอนแรกเขาจะมาเหมือนพลังงาน ลงมากลางกะหม่อมพอดี หลังจากนั้นเวลาเราบอกไม่เชื่อ เขาก็จะให้เราเห็นแบบผ่านม่านตาเป็นภาพ บางครั้งทำให้เราวูบเหมือนไม่มีแรง พอชัดก็ใช้ในการบริหารชีวิต เหมือนเป็น GPS ติดตัว ว่าฉันมีอุปกรณ์ที่ดี คอยบอกว่าให้ระวังจะเกิดอะไรขึ้น หรือใครมาไม่ดี แต่พอมันเยอะๆ ขึ้นผมก็จะบอกเลยว่าไม่เอาพลังงานนี้แล้ว อยากเป็นคนปกติ อุบัติมาเลยไม่ต้องมาบอก แล้วก็มลายหายสิ้นไปเราก็รู้สึกมีความสุข เราจะได้ไม่ต้องมากินเจ สวดมนต์ ทำอะไรก็ได้เหมือนคนทั่วไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พอผ่านไป 6 เดือนเราก็ไม่ชินที่จะเจออะไรต่อหน้าต่อตาแบบฉับพลัน รับมือไม่ถูก จนต้องไปอ้อนวอนขอให้พลังงานนี้กลับมาอยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้คิดร้ายนะ แต่ก็ใช้เวลาเป็นปีนะ เราไม่ใช่ร่างทรงแต่ขอพลังงานแห่งจักรวาล ขอนำพาให้คนที่มีความเชื่อเหมือนเราไปช่วยคนอื่น

ฝันเด่น : เราก็จะบอกกันนะ ในแฟนเพจว่าให้ระวังนะน้ำท่วม แต่มันก็ผ่านครึ่งปีมาแล้ว เราก็คิดว่าเราคิดไปเองไง ของพวกนี้เป็นของธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า หมอดูที่ทำนาย ทำนายเสร็จแล้วมันไม่เกิดอะไรขึ้น เขาก็จะว่าไม่แม่น ผมจะบอกเสมอ ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นมันอาจจะมลายหายไป หรืออาจทำให้เบาลง ด้วยการภาวนา หรือการสวดที่อยู่อีกมุมหนึ่งของโลก ที่เราสวดอยู่ทุกคืน มันอาจทำให้เบาลง แล้วพอมันไม่เกิดเขาก็จะบอกว่าไม่แม่น (เชื่อสนิทใจเลยว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง?) ความเชื่อไม่ได้เกิดจากการได้ฟัง มันเกิดจากการได้เห็น ถ้ามนุษย์มีเหตุผลที่ดีจริง เราวิเคราะห์ได้ คือยืนมองไปอยู่ดีๆ หมาหอน เลยเดินออกไปดูไม่เห็นหมา แต่เห็นท้องฟ้าสีดำไม่มีดาวเลย ที่หมาหอนเพราะมนุษย์ต่างดาวส่งสัญญานใช้คลื่นความถี่ต่ำ พอมองไปก็เห็นไฟด้านขวามือ ก็ปี๊บๆ สลับไปสลับมา เขาได้ยินสิ่งที่เราพูด หลังจากที่เราคิดมันเกิดขึ้น แล้วมันไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว คือต้องเล่าให้คนคอเดียวกัน ไม่งั้นเขาก็จะไม่เชื่อเหมือนกัน (ช่วยคนมาทุกที่แล้วมีที่นึงที่รู้สึกว้าวทุกครั้ง) ชเวดากอง พม่า ตอนนั้นเราทำรายการและไปดูสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่มีคนถามเราก็บอกที่นี่ มุมผมได้เห็นมุมก่อสร้างและมวลศรัธรา และมียอดมีเพชรที่เท่ากับไข่ แล้วมีจุดให้ยืนมอง มันเป็นศูนย์รวมทุกคนที่ขึ้นมาต้องแต่งตัวเรียบร้อย ขึ้นไปแล้วรู้สึกถึงความรัก แรงศรัทรามหาศาล

ขอบคุณภาพประกอบจาก:คุยแซ่บShow