เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.กาญจนา จังหวะ รองเลขาธิการพรรค แถลงข่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พปชร. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน

พล.ต.ท.ปิยะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคได้มีการหารือถึงสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดของประเทศไทย โดย พล.อ.ประวิตร เป็นห่วงสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างมาก จึงกำชับให้ สส.ของพรรค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ลงพื้นที่ดูแลประชาชนในเขตอุทกภัย โดยพื้นที่ใดที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังเข้าไปไม่ถึง พรรคพลังประชารัฐ จะลงไปให้การช่วยเหลือในทุกพื้นที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบการดำเนินจัดทำข้อมูลจังหวัดในเขตเลือกตั้ง และมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรคแต่ละคน ลงพื้นที่ไปติดตามเพื่อเข้าถึงปัญหาต่าง ๆ ของชาวบ้าน และนำมาแก้ปัญหาต่อไป

พล.ต.ท.ปิยะ ยังเปิดเผยด้วยว่า พรรค พปชร. มีการหารือถึงประเด็นบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน หรือ “MOU 2544” ที่ทำขึ้น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และนำมาใช้เป็นเครื่องมือมาดำเนินการแบ่งเขตอธิปไตยของไทยทางทะเลอ่าวไทย และแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติในทะเลของไทยให้แก่กัมพูชา พปชร. ต้องการปกป้องเขตอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูดอ่าวไทยเนื้อที่ 26,000 ตารางกิโลเมตร (16 ล้านไร่) และผลประโยชน์ทรัพยากรพลังงานธรรมชาติมูลค่า 20 ล้านล้านบาทของไทยในทะเลอ่าวไทย โดยจะมีการยื่นกระทู้หรือเสนอเป็นญัตติในที่ประชุมสภาเพื่อสอบถามรัฐบาลถึงแนวทางของเรื่องนี้ต่อไป 

ด้าน น.ส.กาญจนา กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ มีบุคคลที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองที่ตรงกัน โดยจะมาเป็นว่าที่ผู้สมัครในจังหวัดภาคอีสาน 7 คน ได้แก่ น.ส.ปภาสิริ ศรีตะบุตร จ.หนองคาย นายสุชาติ ศรีสังข์ จ.มหาสารคาม นายโกศล คาดพันโน จ.มหาสารคาม น.ส.วารุณี งอยผาลา จ.สกลนคร นายประพันธ์ คนหาญ จ.มุกดาหาร นายสมชอบ นิติพจน์ จ.นครพนม และ น.ส.จารุวรรณ จังหวะ จ.ชัยภูมิ

“ทุกท่านล้วนเป็นผู้มีความสามารถ และมีประสบการณ์ในพื้นที่มายาวนาน โดยเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน พวกเราทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้มีอุดมการณ์ตรงกัน พร้อมที่จะทำเพื่อชาติ และยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์“ น.ส.กาญจนา กล่าว.