เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้รถบัสของนักเรียน ที่บริเวณหน้าห้างเซียร์รังสิต ว่า ทราบว่าขณะนี้มีเด็กออกจากรถได้ประมาณ 19 คน ที่เหลือ คาดว่าน่าจะเสียชีวิต ต้องแสดงความเสียใจอย่างมาก ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและคิดว่า เบื้องต้นต้องเยียวยาสภาพจิตใจของเด็ก 19 คนก่อน และเยียวยาสภาพจิตใจของผู้ปกครองพ่อแม่ด้วย สำหรับเด็กและผู้เสียชีวิตบนรถบัส คงต้องเร่งรัดดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ ซึ่งตนเห็นว่าเรื่องที่ต้องทำก่อนคือให้ความสำคัญกับหัวใจของคนก่อน หลังจากนี้คงต้องดูแลชดเชยเยียวยา แม้จะลำบากแต่ก็ต้องดำเนินการชดเชยเยียวยาอย่างเต็มที่

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ขั้นตอนต่อไปคือการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ยางระเบิดจริงหรือไม่ ยางระเบิดได้อย่างไร มีการซ่อมบำรุงรถหรือไม่ และทำไมประตูฉุกเฉินถึงเปิดไม่ได้ และการจัดทัศนศึกษาได้คำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินทางส่วนนี้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาฯ ที่ต้องเข้าไปติดตามด้วย

นายวิโรจน์ ยังกล่าวด้วยว่า มีคำถามเกิดขึ้น ว่าเด็กอนุบาลและเด็กโตมีความจำเป็นต้องเดินทางไปทัศนศึกษาในระยะไกลขนาดนี้ด้วยหรือ หากมีความจำเป็นในการทัศนศึกษา มีการตรวจสภาพรถก่อนหรือไม่ ความพร้อมในการบำรุงรักษา และการเตรียมความพร้อมในกรณีมีเหตุฉุกเฉินขึ้น ซึ่งพบว่าทำไมเด็กถึงไปอยู่กับบริเวณหลังรถ และพบว่าประตูหลังรถเปิดไม่ได้ นี่จึงเป็นข้อสังเกตและมองว่าการตรวจสอบทางด้านวิศวกรรมตรวจสอบได้ไม่ยาก ทั้งนี้ การตรวจสอบด้านวิศวกรรม วันนี้ พรุ่งนี้ ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้ว โดยสามารถตรวจสอบได้ หลังจากที่มีการเข้าพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว แต่คำถามคือถ้ารถไม่ได้มีความพร้อม 100% ทำไมจึงพาผู้ที่มาทัศนศึกษาในระยะทางที่ไกลขนาดนี้ ทั้งตัวผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตลอดจนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษา จะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาให้กับผู้ปกครองและประชาชนในส่วนนี้ด้วย

ส่วนของงานสภา จะมีการใช้กลไกใดหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะใช้กลไกใดในเรื่องนี้ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้มี 2 ส่วน คือเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะชดเชยเยียวยาอย่างไร จะดูแลสภาพจิตใจอย่างไร และสุดท้ายถ้ามีการกระทำความผิด หรือการกระทำอันประมาท ก็ต้องดำเนินการกับผู้ที่กระทำการอันประมาทด้วย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือการทัศนศึกษา ต่อไปจากนี้ต้องมีกระบวนการ ตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะ ที่บกพร่องตกหล่นไม่ได้เลย 

“ใครจะว่าวัวหายล้อมคอก มันก็ต้องล้อมให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น” นายวิโรจน์กล่าว

เมื่อถามถึงเจ้าภาพหลักในการรับผิดชอบเรื่องนี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ควรต้องเป็นระดับรัฐมนตรี เพราะชีวิตคนมีมูลค่ามหาศาลและไม่ควรเกิดขึ้น

“การเกิดอุบัติเหตุทางจราจรพอที่จะอธิบายได้ และเกิดขึ้นแล้วนำมาซึ่งเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น จริงๆ ยางแตกก็ไม่ควรเกิดขึ้น แต่หากยางรั่วก็ความเป็นไปได้ แต่ไม่ควรที่จะเกิดเพลิงไหม้เช่นนี้ ซึ่งรถคันดังกล่าวติดตั้งแก๊ส ก็ต้องถามด้วยว่า มีวิศวกรเซ็นรับรองอย่างถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่แค่มีลายเซ็นก็พอ มีการตรวจสอบความปลอดภัยทางวิศวกรรมหรือเปล่า ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้พิสูจน์หลักฐานสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นการขอลายเซ็นมา ก็ต้องมีการสืบสวนเอาผิดกับวิศวกรคนนั้นต่อไป คุณเอารถติดตั้งแก๊สพาเด็กนักเรียนมาสมควรหรือเปล่า ก็ต้องตั้งคำถามต่อไป” นายวิโรจน์ กล่าว.