ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) นำโดย ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว. และประธานคณะอนุกรรมการแผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. เดินทางสนับสนุนผู้ประกอบการตลาดอินเดีย ขยายตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยว Short Hual พร้อมทั้งรับฟังเสียงลูกค้า เพื่อทำ Market Foresight ในงาน Roadshow to India 2024 : Hyderabad-Chennai วันที่ 24 และ 26 กันยายน 2567 จัดโดย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) จากแนวโน้มกลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศอินเดียในปีนี้ถือว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพฯ-อินเดีย ของสายการบินแอร์เอเชีย ประกอบกับปัจจุบันมีหลายสายการบินที่ให้บริการ ได้แก่ การบินไทย นกแอร์ และอินดิโก แอร์ ซึ่งมีผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวเฉลี่ยมากกว่า 90% ของทุกเที่ยวบิน ดังนั้นการจัดงาน Roadshow to India 2024 : Hyderabad-Chennai ณ เมืองไฮเดอราบัด และเจนไน ที่ประเทศอินเดีย ถือเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง แต่ยังไม่มีประเทศคู่แข่งเข้ามาเจาะตลาดในพื้นที่นี้มากนัก ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี และสามารถนำไปวางแผนในการทำตลาดเมืองอื่น ๆ ของประเทศอินเดียต่อไปได้ การทำ Roadshow เมืองไฮเดอราบัด และเจนไน ประเทศอินเดีย ในภาพรวมได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ซื้อจากทั้ง 2 เมืองเข้าร่วมงาน จำนวน 270 ราย และผู้ขายจากประเทศไทยเข้าร่วมงาน จำนวน 103 ราย
ประเทศอินเดียมีขนาดประชากรกว่า 1,400 ล้านคน เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและคุณภาพชีวิตของคนอินเดียอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา ดังนั้นความพร้อมของประเทศไทยในด้านสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวไทย จึงนับได้ว่าเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะเข้ามาทำการตลาด ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมุมไบ ได้มาบรรยายให้ข้อมูล 6 ปัจจัยที่เป็นจุดขายที่ดีของตลาดอินเดียที่จะให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวสูงขึ้น ได้แก่ 1) การเติบโตของรายได้ 2) ระบบการเชื่อมโยงการเดินทาง 3) เทคโนโลยีดิจิตอล 4) การประชาสัมพันธ์ผ่าน influencers 5) นโยบายของรัฐบาล
และ 6) การยกระดับคุณภาพชีวิตจากการเดินทาง ดังนั้น ATTA จึงได้วางแผนกลยุทธ์ในการขาย คือ การนำคุณภาพที่ดีของประเทศไทยในทุก ๆ ด้าน ราคาที่คุ้มค่า มาเป็นจุดขายที่สำคัญให้กับสมาชิกที่มาแลกเปลี่ยนเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อให้เห็นโอกาสทางธุรกิจท่องเที่ยวที่ดีกับประเทศไทย ทางด้าน ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ได้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ซื้อและผู้ขายที่เข้าร่วมงาน คือ ผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวแปลกใหม่ คุณภาพและเส้นทางที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจากการที่ทำงานในเชิงนโยบายและวิชาการมา 10 กว่าปี เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งนี้ตลาดอินเดีย ถือว่ามีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย จึงจำเป็นต้องมีแผนการรองรับทั้งในด้านการเติบโตไปพร้อมกับปริมาณและคุณภาพ สุดท้าย การท่องเที่ยวไทยจะยั่งยืนแบบไหน คือ เรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกัน การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คือ การท่องเที่ยวที่สร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนท้องถิ่นที่กระจายตัวอย่างเสมอภาค สร้างความสุขให้กับทุกคนทั้งผู้ให้และผู้รับบริการจากการท่องเที่ยว