เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 67 ที่ลานกิจกรรม อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย แถลงข่าวการจัดงานและกิจกรรมเนื่องใน “วันคล้ายวันสถาปนา การกีฬาแห่งประเทศไทย ครบรอบ 60 ปี” โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ร่วมพูดคุยประเด็นความสำคัญในโอกาสครบรอบ 60 ปี การกีฬาแห่งประเทศไทย และวิสัยทัศน์การพัฒนาการกีฬาแห่งประเทศไทยสู่ทศวรรษที่ 7 รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าว

ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า กกท. จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2507 เพื่อเป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมกิจการกีฬาของประเทศให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันระดับโลก เช่น เอเชียนเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ โดยตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน กกท. มุ่งมั่นพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ผ่านการขับเคลื่อน 12 โครงการหลักๆ

อาทิ โครงการ Smart National Sports Park จัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดเพื่อรองรับการฝึกนักกีฬาในระดับนานาชาติ, โครงการยกระดับการบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ด้วยการจัดตั้งศูนย์ให้บริการเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ครอบคลุมทุกด้าน, โครงการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว, โครงการจัดตั้งเมืองกีฬา, โครงการพัฒนานักกีฬาคนพิการอย่างเป็นระบบและครบวงจร, โครงการสนับสนุนส่งเสริมกีฬาเอกลักษณ์ของชาติและกีฬาพื้นบ้านไทย และโครงการส่งเสริมกิจกรรมกีฬา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สำหรับในปี 2567 เป็นปีที่ กกท. ครบรอบ 60 ปี พร้อมก้าวสู่ทศวรรษที่ 7 โดยดำเนินงานภายใต้แผนพัฒนาการกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและบริหารจัดการองค์กรอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศอย่างยั่งยืน ด้วย 5 พันธกิจสำคัญ คือ 1.ส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร มุ่งพัฒนาระบบการสรรหานักกีฬาหน้าใหม่ และสร้างศักยภาพนักกีฬาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาตามรูปแบบศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ, 2.ส่งเสริมองค์กรกีฬาอาชีพและการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน, 3.สร้างกระแสความตื่นตัวของประชาชนในการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา ส่งเสริมให้จังหวัดเป็นเมืองกีฬาอย่างยั่งยืน รวมทั้งสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว, 4.บริหารจัดการสินทรัพย์ของ กกท. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ 5.พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรให้มีมาตรฐานด้วยระบบดิจิทัลและนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

“กกท. พร้อมเดินหน้าสู่ปี 2568 โดยมุ่งมั่นพัฒนาการกีฬาของประเทศ ทั้งในด้านความเป็นเลิศ การสร้างอาชีพ อุตสาหกรรมด้านการกีฬา การส่งเสริมองค์กรกีฬาและการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับภูมิภาค ระดับประเทศและระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 ที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 กีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 39 เดือนมกราคม 2568 กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 เดือนมีนาคม 2568 รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในเดือนธันวาคม 2568 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จะจัดขึ้นเดือนมกราคม 2569 ตลอดจนปลุกกระแสความตื่นตัวของประชาชนในการออกกำลังกาย เล่นกีฬาและเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา รวมถึงสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ” ผู้ว่าการ กกท. กล่าว

ทางด้าน นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสที่ กกท. ดำเนินงานครบรอบ 60 ปี ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าวใน 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. งานนิทรรศการ “6 ทศวรรษ การกีฬาแห่งประเทศไทย พัฒนาไกลไม่สิ้นสุด” ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงานที่โดดเด่นและบันทึกเหตุการณ์สำคัญของ กกท. โดยแบ่งออกเป็น 6 ทศวรรษ (2507-2567) โดยเริ่มจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ต.ค.67 ที่บริเวณลานโถง ชั้น 1 อาคาร เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สำนักงาน กกท. หัวหมาก

2. การแข่งขันวิ่งสำหรับบุคคลทั่วไป “SAT Spirit ‘ONE’ Run Together 2024” ระยะทาง 6 กม. ชิงเงินรางวัล รวมมูลค่า 12,000 บาท จะจัดขึ้นในวันที่ 12 ต.ค. 67 ที่บริเวณการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 1,000 คน ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ฟรี พร้อมรับเสื้อและเหรียญที่ระลึกจากการแข่งขัน เริ่มสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 10 ต.ค. 67 ได้ที่ https://www.runlah.com/events/ssone และ 3 การแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ภายในองค์กร “SAT Spirit ‘ONE’ Fun Together” เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของบุคลากร กกท. โดยจะจัดขึ้นวันที่ 17 ต.ค. 67 ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย