แบรดลีย์ สมิธ วัย 22 ปี และแอนโทเนีย ซัลลิแวน วัย 20 ปี คู่รักจากแคว้นเวลส์แห่งสหราชอาณาจักร โดนตำรวจจับกุมทันทีที่เครื่องบินของสายการบินอีซีเจ็ตเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่เมืองบริสตอลลงจอด

หนังสือพิมพ์เดอะซันรายงานว่าคู่รักคู่นี้เพิ่งจะไปเที่ยวพักผ่อนที่หมู่เกาะคานารี ประเทศสเปนเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2567 และตัดสินใจแบบไม่อายฟ้าดินในการทำกิจกรรมทางเพศที่เบาะนั่งโดยสารระหว่างที่เครื่องบินยังบินอยู่บนท้องฟ้า 

รายงานข่าวระบุว่า คู่รักใจกล้าไม่ได้พยายามปกปิดการกระทำของตัวเองแต่อย่างใด ทั้งที่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ แสดงท่าทีรังเกียจและขยะแขยง

หลังจากที่เครื่องบินลงจอดและมีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้โดยสารบางคนที่อยู่ใกล้คู่รักให้ข้อมูลว่า พวกเขาได้ยินสมิธพูดกับแฟนสาวให้ “ช่วยทำให้หน่อย” หลังจากนั้น ซัลลิแวนก็ใช้เสื้อคลุมหลายตัวคลุมหน้าตักของสมิธไว้

ผู้โดยสาร 3 คนที่สังเกตเห็นพฤติกรรมของสองหนุ่มสาวต่างแสดงท่าทีตกใจและขยะแขยงเมื่อคาดเดาได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นหญิงสาว “ขยับมือไปมาอย่างดุดัน” ภายใต้เสื้อคลุมที่คลุมหน้าตักของฝ่ายชายเอาไว้ พวกเขาจึงแจ้งไปยังทีมลูกเรือ

หนึ่งในผู้โดยสารผู้โชคร้ายนั่งติดกับคู่รักหน้าไม่อายคู่นี้ ส่วนผู้โดยสารที่เห็นพฤติกรรมอุจาดอีก 2 คนเป็นแม่และลูกสาววัยรุ่น ซึ่งอ้างว่าเธอมองเห็นอวัยวะเพศของสมิธระหว่างที่แฟนสาวของเขากำลัง “ช่วยเหลือ” ให้เขาสำเร็จความใคร่

ต่อมา ซัลลิแวนปฏิเสธว่าไม่ได้มีพฤติกรรมเข้าข่ายกิจกรรมทางเพศ โดยอ้างว่าเธอเพียงแต่ถูขาของเธอไปมาเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม คู่รักคู่นี้ก็โดนตำรวจควบคุมตัวลงจากเครื่องบินรวมถึงโดนตั้งข้อหาและต้องไปขึ้นศาลเพื่อรับการพิจารณาคดี

ในวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่าศาลประจำเมืองบริสตอลตัดสินโทษแก่คู่รักคู่ดังกล่าวซึ่งยอมรับว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาว่ากระทำการเข้าข่ายอนาจารโดยมีเพศสัมพันธ์กันในที่สาธารณะ โดยสมิธได้รับโทษให้ทำงานบริการสังคม 300 ชั่วโมง ในขณะที่ซัลลิแวนต้องทำงานบริการสังคม 270 ชั่วโมง นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังต้องจ่ายเงินชดเชยแก่พยานทั้งสามคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดคนละ 100 ปอนด์ (ราว 4,328 บาท) 

ที่มา : thesun.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES