เมื่อวันที่ 28 ก.ย. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สิงหา เฟื่องแก้ว สว.จร.สภ.คลองหลวง ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ปัสสา รอง สว.จร.สภ.คลองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมาก ขณะตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจรบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ช่องทางคู่ขนานหน้าถนนสีขาว กม.43+200 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง และกำลังชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ช่วยกันจับกุมตัวนายนายสุทัศน์ เพชรเชนทร์ อายุ 27 ปี และนายวิษณุ อินชนะ อายุ 39 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวิช สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 125 นครศรีธรรมราช โดยมีของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ด้านท้ายจำนวน 3 กระสอบ รวม 134 มัด หรือยาบ้าประมาณ 1,340,000 เม็ด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง ไปทำการสอบสวน สภ.คลองหลวง

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ตั้งจุดตรวจเสี่ยงตามเส้นทางลักลอบขนยาเสพติดและอุบัติเหตุจราจร กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหายึดยาเสพติดไว้ได้ และนี่คือคำตอบที่ประชาชนหลายคนถามว่า ด่านตำรวจมีไว้ทำไม และนี่คือการสกัดจับผู้กระทำความผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม หรือเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุทางท้องถนน

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับยาเสพติดจาก จ.สระบุรี เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้รับการว่าจ้างจาก “บังแจ๊ค” ที่อยู่เมียนมา ให้ค่าจ้างคนละ 10,000 บาท

ขณะที่ ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ปัสสา รอง สว.จร.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ขณะตั้งด่านตรวจ พบรถยนต์คันดังกล่าวขับเข้าด่าน โดยสังเกตเห็นแผ่นป้ายภาษีขาด จึงได้เรียกหยุดเพื่อขอตรวจสอบ โดยผู้ขับขี่มีพิรุธทันที พร้อมเสนอให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการขอตรวจค้น พบยาเสพติดบริเวณด้านท้ายจำนวนมาก ก่อนทำการจับกุมตัวและประสานผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ

ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เร่งสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการ เพื่อขยายผลจับกุมมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.