การลดน้ำหนักเพื่อรักษารูปร่างให้ดูดี ควบคู่กับการรักษาสุขภาพที่ดีนั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธี และมีอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แนะนำการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตามช่วงเวลา ช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น ลดโอกาสการดื่มน้ำหวาน ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น

การดื่มน้ำเพื่อลดน้ำหนัก สามารถทำได้ดังนี้

1. หลังตื่นนอน ในเวลา 06.00 -07.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วยลดภาวะขาดน้ำจากการนอนหลับ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและกระตุ้นการขับถ่าย

2. ช่วงเช้า เวลา 08.00 – 09.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้อเช้า 15-20 นาที แล้วค่อยกินมื้อเช้า หลังอาหารให้จิบน้ำเพียงครึ่งแก้ว

3. ระหว่างวัน ในช่วงเวลา 09.00-13.00 น. ควรดื่มน้ำ 2 – 3 แก้ว โดยดื่มไปเรื่อย ๆ เพื่อลดการสูญเสียน้ำในระหว่างวัน

4. ช่วงบ่ายและเย็น เวลา 13.00 -17.00 น. ดื่มน้ำ 2 แก้ว

5. ช่วงเย็นและก่อนนอน เวลา 18.00 -22.00 น ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว แบ่งเป็นดื่มก่อนและหลังกินมื้อเย็น และแบ่งบางส่วนไปดื่มช่วงก่อนนอน เพื่อล้างของเสียที่ค้างอยู่ในลำไส้ ทำให้นอนหลับสบายมากขึ้นและป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับ

สำหรับปริมาณในการดื่มและข้อควรระวัง มีดังนี้

@ น้ำ 1 แก้ว เท่ากับน้ำประมาณ 240 มิลลิลิตร

@ สามารถปรับเปลี่ยนปริมาณให้เหมาะสมกับจำนวนที่ต้องดื่มต่อวันของแต่ละคน โดยควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน

@ ต้องเป็นน้ำเปล่าสะอาด อุณหภูมิห้อง ไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไป

@ ไม่ดื่มน้ำแบบรวดเดียวหมดแก้ว แต่ควรจิบเรื่อย ๆ ตลอดวัน

@ ในผู้ป่วยโรคหัวใจหรือโรคไต ควรดื่มน้ำในปริมาณที่จำกัด ตามคำแนะนำของแพทย์