เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 67 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 แถลงผลงานทางวิชาการ และมอบเอกสารทางวิชาการ ภายใต้หัวข้อ “Level Up ยกระดับกองทัพไทยให้ไกลกว่าเดิม” ให้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ. ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) , พล.อ.อ.ภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ และ พ.อ.เอกรักษ์ สิงหพงษ์ ประธานรุ่นนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 ในฐานะตัวแทนนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 ให้การต้อนรับ และร่วมถ่ายภาพที่ระลึกบริเวณจุดถ่ายภาพ ชั้น 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยก่อนการเริ่มพิธีการนั้น นายภูมิธรรม ได้เข้าชมนิทรรศการที่ครอบคลุมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของ นักศึกษาหลักสูตรวปอ.บอ.รุ่นที่ 1 บริเวณ ชั้น 2 อาทิ การศึกษาการขับเคลื่อนการพัฒนา จ.สุโขทัย ภายใต้กิจกรรม Connect to the future moving forward together การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 กับหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน รวมถึงชุมชนในพื้นที่ จ.สุโขทัย กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ณ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก กรุงเทพมหานคร กิจกรรมเพื่อสังคม”เรามีเรา” ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยใน จ.สุโขทัย และกิจกรรมเพื่อสังคมสนับสนุน นักเรียนใน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ก่อนที่นายภูมิธรรม จะเข้าห้องรับรอง เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเข้ารับฟังการชี้แจงการแถลงผลงานทางวิชาการ

ร.อ.ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำสถาบันการทูตและการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเปิดแถลงผลงานทางวิชาการว่า นักศึกษาหลักสูตรวปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ได้ทำการศึกษาในขั้นต้นด้วยกระบวนการ Strategic Foresight และได้ผลลัพธ์เป็นสภาพการณ์ด้านความมั่นคงของสังคมไทยในอนาคต 2 ประการสำคัญ ได้แก่ การเป็นสังคมสูงวัยขั้นสูงสุด (Super Aged Society) และปัญหา ภัยคุกคามความมั่นคงทุกรูปแบบ ทั้งที่มีอยู่และอาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต (Dynamic Emergig Treats)

ร.อ.ดร.จารุพล กล่าวต่อว่า นักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ได้มีข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปกองทัพด้วยการ “ยกระดับกองทัพ” (Level Up) รวมทั้งสิ้น 3 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 Level up กองทัพเพื่อความเป็นประชาธิปไตยและการอยู่ร่วมกับสังคมอนาคต มิติที่ 2 Level up กองทัพเพื่อประสิทธิภาพ มิติที่ 3 Level up กองทัพเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยหวังว่า ข้อเสนอทั้งสามมิติจะนำกองทัพไปสู่กองทัพที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในโลกอนาคต เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความมั่นคงปลอดภัยและความสถาพรของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน รวมถึงเป็นที่รักและความภาคภูมิใจของประชาชนคนไทยทุกคน

ร.อ.ดร.จารุพล กล่าวอีกว่า หากจะเปรียบกองทัพเสมือนกับประกันสุขภาพ การยกระดับกองทัพ จึงไม่ต่างจากการยกระดับประกันสุขภาพให้ครอบคลุมโรคร้ายมากขึ้น ดังนั้นการยกระดับกองทัพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ถึงแม้ว่าการ “ไม่มีโอกาสได้ใช้” จะหมายความถึงความสงบเรียบร้อยของสังคมข้อเสนอการยกระดับกองทัพของนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 จึงเป็นความหวังและความฝันของนักศึกษาทุกคนในการมีส่วนร่วมพัฒนากองทัพให้มีศักยภาพในการ “รักษาโรค” ให้แก่ประชาชนได้มากขึ้น ทั้งโรคทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ในอนาคต

ร.อ.ดร.จารุพล กล่าวต่อว่า ผลงานดังกล่าว เป็นการร่วมมือร่วมใจกันของนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ที่ได้ใช้ประสบการณ์องค์ความรู้ และความชำนาญของแต่ละคน ประกอบกับองค์ความรู้ที่ได้รับจากหลักสูตร ร่วมกันสรรค์สร้าง ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลเพื่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ โดยยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเสนอทั้ง 3 มิติ ดังกล่าวจะมีประโยชน์กับประเทศไทยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังรับฟังการแถลงผลงานแล้วเสร็จ นายภูมิธรรม ได้ขึ้นรับเอกสารทางวิชาการของหลักสูตร วปอ.บอ. พร้อมกล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้มารับฟังการแสดงผลงาน และกล่าวชื่นชมนักศึกษารุ่นใหม่ที่เป็นผู้บริหารแห่งอนาคต พวกท่านแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง อันเป็นความภาคภูมิใจของหน่วยงาน และองค์กรของท่าน ที่เป็นผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับการคัดเลือกให้มาอบรมในหลักสูตรนี้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ผลงานที่มีการนำเสนอ แสดงถึงการเชื่อมประสานองค์กร บุคลากร และความร่วมมือ เพื่อการหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนากองทัพ และประเทศให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ความฝันของนักศึกษาในการพัฒนา มีโอกาสเป็นจริง เพราะกองทัพยุคใหม่เป็นกองทัพที่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ในวันนี้ตนเข้ามาเห็นวีดีทัศน์ที่เปิดในงาน มีข้อความว่า ”กองทัพมีไว้เพื่ออะไร“ ตอนนี้ตนเองเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะกองทัพเป็นหน่วยหน้าในการเข้าไปช่วยเหลือสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น อุทกภัยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งเมื่อตนลงพื้นที่ไปที่ไหน ทุกคนก็บอกว่ากองทัพไปถึงก่อน

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน ทั้งภัยสงคราม การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น AI เป็นต้น ตนเชื่อว่ากองทัพจะสามารถพัฒนาศักยภาพและรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ พร้อมมองว่าการพัฒนากองทัพ ไม่ใช่เพียงแค่การทุ่มงบซื้อยุทโธปกรณ์ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอีกด้วย และสามารถก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงานในวันนี้มีบุคคลทางการเมืองจำนวนมากเข้าร่วมงาน อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม , นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ , นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภรรยาของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายก ฯ และรมว.มหาดไทย ที่ร่วมศึกษาอยู่ในหลักสูตรนี้อีกด้วย.