เปิดตัวหลักสูตรครั้งแรกก็ไม่ธรรมดา เมื่อศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พาคณะนักศึกษาหลักสูตรผู้นำทางยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ รุ่นที่ 1 เดินทางศึกษาดูงานด้านการค้า การลงทุนและขนส่งของจีน ณ เมืองคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2567

มูลนิธิพัฒนาภูมิภาค เปิดตัวหลักสูตรใหม่ล่าสุดสำหรับผู้บริหารระดับสูง หลักสูตรผู้นำทางยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ รุ่นที่ 1 (นคท-1) เบิกโลกเส้นทางสายไหม โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิพัฒนาภูมิภาค , สถาบันวิจัยไทย จีน อาเซียน , สถาบันวิจัยโลจิสติกซ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้แห่งนครคุนหมิง ประเทศจีน โดยมีการอบรมให้ความรู้ด้านจีนศึกษา ยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจของจีนแล้ว ยังได้จัดให้คณะนักศึกษา นคท รุ่นที่ 1 เดินทางศึกษาดูงานและได้พบกับผู้เชียวชาญตัวจริงของประเทศจีนอีกด้วย

โดยคณะเดินทางได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหัวหน้าคณะเดินทาง ร่วมด้วยพลโท ดร.โสภณ ศิริงาม ผู้อำนวยการหลักสูตร , ผศ.ดร.บุญส่ง ชเลธร รองผู้อำนวยการหลักสูตร ,นายภูวนัย ธรรมรักษา คณะทำงานหลักสูตร ,ดร.ภวัต ตั้งตรงจิตร เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาภูมิภาค , ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก พลเอก ดร.มนตรี ศุภาพร ประธานมูลนิธิพัฒนาภูมิภาค และพลเรือเอก ถมรัตน์ หทโยดม รองประธานมูลนิธิฯ

ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “การเดินทางมาศึกษาดูงานครั้งนี้ มูลนิธิได้ตั้งใจให้นักศึกษานคท.ในรุ่นที่ 1 ได้เรียนรู้จากการเห็นของจริงของการทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิตอลและโลจิสติกส์ ที่ประเทศจีนถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำระดับโลกด้านนี้ โดยเราได้พาศึกษาเข้ารับชมและศึกษาหลายสถานที่สำคัญของเมืองคุนหมิง เช่น Kunming Artificial Intelligence Computing Center ศูนย์การพัฒนาด้าน AI ระดับโลกของจีน ที่มีการพัฒนา AI มาใช้ประโยชน์หลากหลายวงการทั้งด้านการเกษตร , การแพทย์ และการศึกษา ซึ่งเป็นความล้ำหน้าทันสมัยระดับโลกที่ประเทศจีนตั้งใจพัฒนาขึ้นมา , บริษัท INSPUR ซี่งเป็นศูนย์กลางการเก็บข้อมูลของประเทศจีนในนาม Kunming Cloud Computing Innovation Center ซึ่งได้พัฒนาเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลในระบบ Cloud ให้ทันสมัยเป็นระดับต้นๆ ของโลก , บริษัท iFLYTEK บริษัทเอกชนชั้นนำของจีน ที่พัฒนาการใช้ AI จนมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถมาช่วยมนุษย์ในชีวิตประจำวันได้หลากหลาย ,ด้านโลจิสติกส์ ได้รับฟังการบรรยาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” การก่อสร้างระเบียงเศรษฐกิจจีน-อินโดจีน” โดย Mr. Liu Jinxin ประธานสถาบันวิจัยโลจิสติกส์นานาชาติคุนหมิง เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต และยังได้ไปศึกษาที่ศูนย์กระจายสินค้าทางบก ศึกษาดูงานท่าเรือบก Anning Dry Port พร้อมฟังการบรรยาย โครงการบริษัท Anning Dry Port ที่มีการสร้างฮับในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าในภูมิภาคทั้งจากจีน-ลาว-ไทย ยาวไปถึงมาเลเซีย และยุโรปในที่สุด ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าทางบก ได้แก่ทางราง โดยรถไฟจีนที่เชื่อมต่อหลายๆ ประเทศในเอเชีย สามารถขนถ่ายสินค้าจากจีนไปทั่วเอเชียและถึงยุโรปได้ โดยนักศึกษา นคท.รุ่นที่ 1 หลายท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนด้านไอทีและโลจิสติกส์ ได้เครือข่ายกับทั้งบริษัทเอกชนของจีนและหน่วยงานภาครัฐบาลจีน ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาการค้าการลงทุนร่วมกันได้จริงต่อไปในอนาคต อันนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งด้านธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของเอกชนและการค้าการลงทุนที่จะเกิดรายได้ต่อประเทศไทยของเราต่อไป”

นายรัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ประธานนักศึกษา นคท.รุ่นที่ 1 กล่าวว่า “เป็นการบรรยายที่ได้รับความรู้มาก เพราะนอกจากจะได้ทราบถึงเรื่องการพัฒนาโครงการพื้นฐานของจีนเพื่อเชื่อมประเทศในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นถนน ท่าเรือน้ำลึกต่างๆ โดยโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาจมองเหมือนเป็นฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่หัวใจของความสำเร็จคือการเข้าใจในวัฒนธรรมซึ่งกันและกันของแต่ละประเทศ ซึ่งทางจีนก็เน้นมากว่าถึงแม้จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มากมาย แต่อีกสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เข้าใจวัฒนธรรมของกันและกัน จะทำให้สามารถพัฒนาร่วมกันได้ต่อไปในอนาคตครับ”

ดร.ภวัต ตั้งตรงจิตร เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาภูมิภาค และอาจารย์ประจำหลักสูตรผู้นำทางยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่มาได้รับฟังคำบรรยายจาก Dr. Xia Yuanchun ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์ มณฑลยูนนาน ซึ่งเน้นเรื่องการที่ประเทศจีนได้นำดิจิตอลอีโคโนมีมาใช้เป็นกลไกเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การให้บริการด้านการแพทย์ ฯลฯ ทางรัฐบาลจีนมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ชุมชนตนเองมากขึ้น และพยายามผลักดันสู่ภูมิภาคในแถบประเทศอาเซียนให้มากขึ้น โดยตั้งใจที่เป็นศูนย์ดิจิตอลอีโคโนมีที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีต่อกันมายาวนาน และการที่สถานที่ตั้งของประเทศไทยเหมาะกับการเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคได้ต่อไป”

นายวิเชียร รุ่งปัญญา บริษัท ฟอลคอน โลจิสติคส์ โซลูชั่น จำกัด รองประธานนักศึกษา นคท.รุ่นที่ 1 กล่าวว่า “การได้มาเห็นการทำงานระดับรัฐบาลของประเทศจีนในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เพราะการเข้าถึงหน่วยงานสำคัญระดับชาติของจีนไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่ประทับใจคือได้เห็นพนักงานรัฐที่ทำงานด้านดิจิตอลไอทีดูแลระบบดิจิตอลระดับชาติเป็นคนรุ่นใหม่มากมาย แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีน มีการวางแผนด้านการสร้างบุคลากรดิจิตอลไอทีมามากว่า 20 ปี เมื่อรัฐบาลพัฒนาสู่รัฐบาลดิจิตอล ก็มีบุคคลากรคุณภาพมากมายรองรับการทำงานด้านดิจิตอลที่ต้องแข่งขันสูงกับต่างชาติ การมีบุคคลากรที่มีคุณภาพทำให้รัฐบาลดิจิตอลของจีนสามารถพัฒนาก้าวไกลจนเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกอย่างทุกวันนี้ ตรงนี้คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเรา หากนำบทเรียนตรงนี้ไปใช้ในการเร่งพัฒนาการศึกษาและสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ของไทยให้มีความรู้มากพอในการพัฒนาประเทศเราไปสู่รัฐบาลดิจิตอลต่อไป”

มูลนิธิพัฒนาภูมิภาค นอกจากจะดำเนินหลักสูตรผู้นำทางยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ รุ่นที่ 1 (นคท-1) แล้ว ยังมีโครงการในการพัฒนาพื้นที่ในถิ่นทุรกันดารตามภูมิภาคต่างๆ และเน้นการฝึกอบรมชาวบ้าน เช่นโครงการปลูกป่าปรับปรุงพื้นที่ การพัฒนาท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพให้กับชาวบ้านในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอีกด้วย.