เมื่อวันที่ 25 ก.ย. หลังจากรัฐบาลแถลงรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสิ่งเร่งด่วนคือการเติมเงินดูเศรษฐกิจ โดยเดือน ก.ย.เม็ดเงินจะถึงมือประชาชน กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 12.4 ล้านคน และกลุ่มผู้ถือบัตรประจำตัวคนพิการ อีกประมาณ 2,149,286 คน รวมเป็น 14,555,240 คน โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณรวม 145,552.40 ล้านบาท จะเริ่มต้นจ่ายเงินในวันที่ 25 ,26,27 และ 30 ก.ย. ซึ่งจะแบ่งจ่าย 4 วัน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องของระบบ

โดยจะเริ่มโอนวันแรก 25 ก.ย.2567 ใช้เวลาทั้งหมด 4 วันไม่รวม เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะได้รับเงินครบทั้งหมดภายในวันที่ 30 ก.ย.2567 โดยกำหนดโอนเงิน 10,000 บาทเข้าบัญชีระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้าตรู่ บรรยากาศบริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาพิมาย ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ได้มีประชาชนจำนวนมาก ไปเข้าแถวกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคาร หลังทราบข่าวว่าเงิน 1 หมื่นบาทเข้าบัญชีแล้ว

นางบด เพินบุญ อายุ 62 ปี ชาวบ้านตำบลในเมือง อำเภอพิมาย บอกว่า ตนเองดีใจมากที่ได้เงิน 1 หมื่นบาท หลังจากนี้ จะนำเงินที่ได้ไปซื้อข้าวสาร ซื้อนมเลี้ยงหลาน โดยฝากขอบคุณทางรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนจน แล้วตนจะนำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นางโจแอ๋ว รวยดี อายุ 63 ปี ผู้พิการผ่าตัดสมอง บอกว่า ดีใจมาก เกิดมาไม่เคยเห็นเงินหมื่น ขอบคุณรัฐบาล จะนำเงินไปใช้จ่ายซื้อข้าวซื้อปลาเลี้ยงครอบครัว และให้หลานไปโรงเรียน

เช่นเดียวกับหนุ่มผู้พิการทางการได้ยินหรือเป็นใบ้ โชว์สมุดบัญชี ธ.ก.ส. พบว่ามีเงินเข้าบัญชี 10,000 บาท แสดงอาการดีใจเป็นภาษามือ พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณรัฐบาล

ส่วนลุงสมศักดิ์ จิระวัฒนเดชะ อายุ 64 ปี บอกว่า ดีใจมาก ลูกหลานรออยู่ วันนี้เบิกเงินทันที 5,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายซื้อของกินของใช้ ซื้อขาวสาร อาหาร กับข้าว ซื้ออุปกรณ์การเรียนให้หลาน ต้องขอขอบคุณรัฐบาลมากที่ให้เงิน 10,000 มาช่วยต่อชีวิต

ด้าน ลุงปรีดา สีหาวงษ์ อายุ 64 ปี  บอกว่า เตรียมนำเงินไปซื้อพันธุ์ไก่เลี้ยงในที่นา เงินนี้ช่วยต่อยอดอาชีพของผู้สูงอายุ ถ้ารัฐบาลไม่ช่วยก็คงแย่เหมือนกัน เพราะคนสูงอายุไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี.