จากกรณีปัญหาที่ยืดเยื้อเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกป่าของภาครัฐตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา ซึ่งมีเกษตกรจำนวนไม่น้อยเข้าร่วมโครงการปลูกป่า แล้วเมื่อครบอายุการตัด ไม่สามารถที่จะนำไม้ที่ปลูกมาใช้ประโยชน์ได้ รวมถึงแปลงของนายบุญส่ง สนเสริม อายุ 86 ปี ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 1 ตำบลนาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากปัจจุบันมีแค่เงินเดือนชราสองตายาย และเงินช่วยเหลือผู้พิการของลูกอีกอีก 800 บาท บ้านพักอาศัยซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกพื้นสูงสภาพบ้านก็ทรุดโทรม มีลักษณะเอนเอียงใกล้จะล้มพัง พื้นไม้ข้างบนส่วนใหญ่ผุพัง ซึ่งทุกอย่างคงรอความหวังในการตัดไม้ปลูกในพื้นที่ 17 ไร่ จำนวน 484 ต้น เท่านั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 24 ก.ย. นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบเรื่องนายไชยา แดนโพธิ์ ผู้อำนายการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) นายนพรัตน์ แก้วโมรา ผู้อำนวยการส่วนการอนุญาต นายสมศักดิ์ ตะเภา ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า และนายเสกสรรค์ กันโต ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กำแพงเพชร เดินทางไปยังบ้าน นายบุญส่ง สนเสริม ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อที่จะทำการมอบใบอนุญาต หลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตาวัย 86 ชีวิตสิ้นหวัง ร่วมปลูกป่าโครงการรัฐ แต่ตัดไม้ไม่ได้ 30 ปีหมดตัวแล้ว!

นายไชยา แดนโพธิ์ กล่าวว่า จากการที่สำนักจัดการทรัพยากรบำไม้ที่ 4 (ตาก) ได้มีหนังสือส่งเรื่องราวคำขอรับใบอนุญาตทำไม้หวงห้ามในป่ารายนายบุญส่ง สนเสริม มีความประสงค์ขอทำไม้สัก จำนวน 484 ต้น ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ลำคลองสวนหมากและป่าคลองขลุง บริเวณพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยตามโครงการส่งสริมเกษตรกรปลูกป่าบนเนื้อที่ของนายบุญส่งนั้น สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) ได้รับรายงานจากคณะเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบว่า เป็นไม้สักที่ราษฎรปลูก เป็นทรัพย์สินและเป็นกรรมสิทธิ์ของราษฎรผู้ปลูก และการขออนุญาตทำไม้ออกก็เป็นแนวทางปฏิบัติโดยอนุโลมของกรมป่าไม้ที่ได้แก้ไขปัญหาผ่อนปรนความเดือดร้อนของราษฎรให้สามารถทำไม้ออกได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้ว ไม้สักที่ขึ้นอยู่ในแปลงที่ขออนุญาตพบว่ามีการเจริญเติบโตเป็นแถว เป็นแนว เว้นระยะห่างเป็นช่วง ๆ สม่ำเสมอ ขนาดความโตที่ตรวจพบมีขนาดใกล้เคียงกัน เชื่อว่าเป็นไม้ที่ปลูกขึ้น ไม่มีไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแต่อย่างใด

โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้สำรวจคัดเลือกได้ไม้สัก จำนวน 484 ต้น โดยใช้ดวงตราตีประทับไว้เป็นเครื่องหมายทุกต้น และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) บัดนี้กรมบำไม้ ได้ตรวจสอบและพิจารณาแล้ว ตามรายงานผลการตรวจสอบของคณะเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องครบถ้วนถูกต้องแล้ว จึงอนุญาตให้นายบุญส่ง สนเสริม ทำไม้สัก จำนวน 484 ต้น โดยวิธีตัดฟัน ตามบัญชีรายที่แจ้งได้ ซึ่งจากการที่ล่าช้านั้น อันเนื่องมาจากมีพื้นที่บางส่วนที่มีการตรวจสอบเพิ่มเติม ปัจจุบันนี้ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีผู้ร่วมโครงการปลูกป่าอีกจำนวนหลายรายที่เหลือ ทางกรมป่าไม้ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบ และคงจะได้แจ้งให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้ทราบต่อไป

ด้านนายบุญส่ง กล่าวว่า วันนี้ตนเองมีความรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่รอคอยเวลานี้มานานเกือบทั้งชีวิต หลังจากนี้คงจะต้องดำเนินการหาผู้รับซื้อและตัดต่อไป ส่วนเงินที่ได้นั้น ก็จะนำมาใช้ในการซ่อมแซมบ้านเป็นอันดับแรก หรือถ้าใครมีความประสงค์สนใจที่จะต้องการไม้ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่แปลงของตนเองทุกเวลา