เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้าเขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานมอบรางวัลแก่สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษีดีเด่นของกรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมกล่าวว่า ปีนี้ กทม.ตั้งเป้าการจัดเก็บภาษีไว้ประมาณ 90,000 ล้านบาท แต่สามารถจัดเก็บภาษีได้ถึง 92,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถจัดเก็บภาษีได้มาก เพราะจะได้นำงบประมาณมาทำโครงการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชน 


สิ่งที่สำคัญคือต้องจัดเก็บภาษีอย่างยุติธรรมและเป็นธรรม โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเหลือการทำงานให้เข้าระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานและการตรวจสอบ รวมถึงต้องมีการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลประชาชนถึงภาษีประเภทต่างๆ ให้ครบถ้วนทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงการเก็บภาษีแต่ละประเภท ทั้งนี้รายได้ที่สำคัญของ กทม. ได้แก่ การจัดเก็บภาษีป้ายและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กทม.ได้กำหนดประมาณการรายรับภาษี 4 ประเภท ได้แก่ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ เป็นจำนวนเงินรวม 16,644 ล้านบาท และได้กำหนดเป้าหมายให้สำนักงานเขตจัดเก็บภาษีทั้ง 4 ประเภทไว้รวม 18,354.81 ล้านบาท  


ซึ่งผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 66 ถึงวันที่ 30 ส.ค. 67 สามารถจัดเก็บภาษีได้รวมทั้งสิ้น 18,135.81 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 98.81 ของเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งถือว่าผลการจัดเก็บจริงสูงกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ถึงร้อยละ 8.96

ทั้งนี้ การจัดพิธีมอบโล่พร้อมใบประกาศเกียรติคุณให้แก่สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี ที่มีผลงานการจัดเก็บภาษีดีเด่น ได้จัดเป็นประจำ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ยกย่อง ชมเชยแก่หน่วยงานและผู้ดำเนินการจัดเก็บภาษีที่มีผลงานดีเด่น เป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขต ตลอดจนเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี มีความมุ่งมั่นปรับปรุงการทำงาน ส่งผลให้จัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน โดยมีรางวัลรวมทั้งสิ้น 42 รางวัล ได้แก่ รางวัลสำหรับสำนักงานเขต 6 ประเภทรางวัล และรางวัลสำหรับเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี 4 ประเภทรางวัล.