เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญประจำวุฒิสภา 21 คณะ โดยแต่ละคณะจะประชุมเพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ และรองประธานกรรมาธิการ รวมถึงตำแหน่งต่างๆ โดยมีรายงานว่า กลุ่ม สว. ที่เรียกกันว่า สว.สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่นั้นมีการวางตัวบุคคลทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการแล้ว 20 คณะ เว้นแต่ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ และเป็นที่จับตามองว่าสว. กลุ่มสีน้ำเงิน จะได้รับเลือกเป็นประธานกมธ.อีกหรือไม่

ทั้งนี้ในที่ประชุมกมธ.พัฒนาการเมืองฯ ได้ให้นายกัมพล สุภาแพ่ง  สว.ที่มีความอาวุโสสูงสุดทำหน้าที่ประธานชั่วคราวในการประชุม หากการโหวตเลือกรอบแรกยังไม่ได้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานหรือว่ามีคะแนนเท่ากัน ก็จะต้องดำเนินการโหวตในรอบที่ 2 แต่หากยังไม่ได้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานอีกก็จะจะต้องทำการจับสลาก ตามข้อบังคับของวุฒิสภาข้อที่ 5 

ปรากฏว่าในการประชุม มีการเสนอชื่อนางอังคณา นีลไพจิตร กับ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงสี และนายประภาส ปิ่นตบแต่ง  แต่นายประภาส ขอถอนตัว ทั้งนี้เดิมที สว. สีน้ำเงินจะส่งชื่อนายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด แต่มีการเปลี่ยนชื่อก่อนที่จะเริ่มเลือก โดยการโหวตในรอบแรกคะแนน 9 ต่อ 9  จากนั้นเข้าสู่กระบวนการโหวตในรอบที่สอง ซึ่งผลการโหวต ทั้งนางอังคณาและนายวีระศักดิ์ ยังคงมีคะแนนเท่ากัน 9 ต่อ 9 จึงต้องมีการจับฉลาก โดยนางอังคณา จับฉลากได้นั่งตำแหน่งประธาน กมธ.ฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประธาน กมธ.พัฒนาการฯชั่วคราวไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป บันทึก ภาพช่วงแรกที่เริ่มประชุม ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ฯ

จากนั้นนางอังคณา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมนายวีระศักดิ์ ว่า ในการเลือกวันนี้ มีการลงคะแนนรับ 2 รอบ ผลปรากฏว่ามีคะแนนเท่ากัน ก่อนที่จะมีการจับฉลาก พร้อมกับยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ นายวีระศักดิ์ แคนดิเดตในการเลือกประธาน กมธ. 

นางอังคณา กล่าวว่า ตนยืนยันว่าหลังจากนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันโดยนายวีระศักดิ์ ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุน ซึ่งทั้ง 2 คนไม่ว่าใครจะได้เป็นประธาน กมธ. ก็ไม่ต่างกัน ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำงานสนับสนุนส่งเสริมกันได้ และขอบคุณคณะกมธ.ทุกคน 

ส่วนการเริ่มทำงานจะต้องดู สว.ชุดที่แล้ว ทำอะไรไว้บ้าง มีงานค้างหรือไม่ ซึ่ง กมธ.ชุดนี้เป็นการรวม 2 กมธ.เข้าด้วยกัน คือคณะกมธ.พัฒนาการเมืองฯ กับคณะ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ โดยหลังจากนี้ จะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาด้วย ซึ่งเรื่องสิทธิพลเมืองกับสิทธิทางการเมืองไม่สามารถแยกจากกันได้ เช่นเดียวกับสิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือเรื่องเดียวกัน แม้ส่วนตัวจะเห็นว่าควรจะแยกกันก็ตาม

เมื่อถามว่าสว.ชุดเก่าได้มีการตามเรื่องการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 ของนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ จะมีการ ตามเรื่องนี้ต่อหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่างานที่ สว.ชุดที่แล้วทำค้างไว้ และสว.ชุดปัจจุบันมีมติให้ทำต่อ ก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อ

ขณะที่นายวีระศักดิ์ กล่าวถึงการทำงานร่วมกันว่า ส่วนตัวเคารพนับถือนางอังคณา และมั่นใจว่าการทำงานจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเห็นว่าทุกคนที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ จะต้องมีความสมานฉันท์กัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจจะมีข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็จบลงในที่ประชุม  ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการตั้ง กมธ.สว. สายสีน้ำเงินกินรวบประธาน กมธ.เกือบทุกคณะ นายวีระศักดิ์ ปฏิเสธที่จะพูดถึง เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของ กมธ.แต่ละคณะ

เมื่อถามว่ารายชื่อกมธ. ที่หลายคนมองว่าอาจจะมีสิทธิ์ผิดฝาผิดตัว และอาจจะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สิทธิพลเมืองต้องมาก่อน ขออย่าไปด้อยค่า เพราะทุกคนมีสิทธิ์ตามความสนใจ อย่างเช่นตนเองก็มาอยู่ในคณะ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ มองว่าเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ที่สว. จะดำรงตำแหน่งในคณะ กมธ. 

นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวเปิดใจที่ได้เข้ามานั่งใน กมธ.ชุดนี้ว่า ได้แจ้งนางอังคณาไว้แล้ว ตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่เพื่อลบรอยร้าวเล็กๆ ที่มีอยู่ และต้องการให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความสมานฉันท์ การเข้ามาชิงตำแหน่งประธานไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะมีคนเสนอชื่อ และยินดีที่นางอังคณาได้รับตำแหน่ง พร้อมยืนยันสามารถทำงานร่วมกันได้

ด้านนางอังคณา กล่าวว่า เคยพูดคุยกันมาก่อน ว่าไม่ว่าใครก็ตาม เป็นประธาน ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ และจะสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ส่วนความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ซึ่งต้องเคารพในเสียงข้างมาก ไม่ละเลยเสียงข้างน้อย ทั้งนี้พร้อมรับข้อเสนอแนะ และข้อห่วงใยจากทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนที่จะมีการเลือกบุคคลที่มาดำรงตำแหน่ง นางอังคณาได้ให้สัมภาษณ์แฉกระบวนการล็อบบี้จากกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ให้ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธาน กมธ.

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจดูบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งต่างๆ พบว่ามีบุคคลที่น่าสนใจ เช่น นางแดง กองมา สว.ที่ประกอบอาชีพขายหมู ที่ถูกตั้งข้อสังเกตก่อนหน้า ได้รับตำแหน่ง รองประธานคนที่ 3 นอกจากนี้ยังมีนายประภาส ปิ่นตบแต่ง เป็นเลขานุการ.