ถ้าใครอยากกินอาหารเกาหลีสไตล์ ‘ข้าวแกง’ หรือ ‘อาหารตามสั่ง’ เทียบเคียงกับเมืองไทย ไม่เน้นปิ้งย่างจริงจัง และเป็นอาหารจานเดียวง่ายๆ ให้อารมณ์เหมือนสตรีทฟู้ด วันนี้อยากแนะนำร้าน โซลกู๊ด (Seoul Good) ชื่อร้านอาหารสุดเก๋ที่เล่นคำได้สมศักดิ์ศรี อดีตเออีบริษัทโฆษณาเอเจนซีดัง โดย คุณซี-คนธมาส รัตนสุวรรณ ปักหมุดความฟินอยู่ที่โครงการ Aqua ชั้น 2 (จากสถานีสะพานควาย 500 เมตร) มากินแล้วทุกคนจะรู้สึก So Good ตั้งแต่ 11 โมงถึงสามทุ่ม

ที่มาของร้านอาหารแห่งนี้ คุณซีเล่าให้ว่า เกิดจากเหตุบังเอิญที่นักธุรกิจชาวเกาหลีท่านหนึ่ง มาเช่าบ้านเพื่อใช้เป็นสำนักงาน จึงได้รู้จักกับภรรยาของเขา ทุกวันนี้สนิทสนมรักใคร่นับถือกันเป็นพี่น้อง ส่วนตัวจะเรียก ‘อ็อนนี’ เคยพากันไปกินอาหารเกาหลีย่านโคเรียนทาวน์แล้ว รู้สึกว่าราคาสูง คุยกับอ็อนนี ทำให้ถูกลงได้ไหม จึงเป็นที่มาของการทำ ‘เครื่องแกงเกาหลี’ จำหน่ายในช่วงแรก เราคิดสูตรร่วมกัน หากมีบางอย่างที่พี่ทำเอง ปัจจุบันยังมีอีกหลายสาขา อาทิ แจ้งวัฒนะ 28, สีลม-เดโช, ศาลายา และ จ.บุรีรัมย์

คุณซีเป็นทายาทของ อาจารย์ เสาวณีย์ รัตนสุวรรณ ครูต้นแบบวงการอาหารไทย ซึ่งเป็นครูสอนวิชาคหกรรมที่มีชื่อเสียงและมีลูกศิษย์ลูกมากมาย เมื่อเกษียณอายุราชการครู ยังคงมาสอนที่โรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญกว่าทศวรรษ หลังจากโลดแล่นทำงานด้านวงการโฆษณามานาน คุณซีเพิ่งค้นพบตัวเองในภายหลังว่า ชื่นชอบการทำอาหารไม่แพ้คุณแม่ ความเก่งได้มาเพราะครูพักลักจำนั่นเอง “สมัยก่อนชอบทำอาหารเพื่อคลายเครียดจากการทำงาน” คุณซีเล่าด้วยรอยยิ้ม

สำหรับเมนูที่ร้าน โซลกู๊ด (Seoul Good) รายเรียงมามากกว่า 30 เมนู รวมทั้งมีเซตลัชมาตอบโจทย์หนุ่มสาวชาวออฟฟิศ จุดเด่นของอาหารแต่ละจานอยู่ที่ ‘เครื่องแกง’ ต้องมีความหอม การใช้พริกของเกาหลีจะแตกต่างจากเมืองไทย ให้ความเผ็ดร้อนไม่เหมือนกัน เมนูนำเสนอวันนี้คือ ‘ซุปเต้าหู้อ่อน’ หรือ ‘ซุนดูบูจิเก’ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซีรีส์เรื่องดัง “อีแทวอนคลาส : ธุรกิจปิดเกมแค้น” มีฉากถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารด้วยการทำซุปชนิดนี้บ่อยครั้ง

วัตถุดิบ มีดังนี้ เนื้อหมูสับ 60 กรัม, เต้าหู้ขาว ½ ท่อน, เครื่องแกงของเกาหลี 500 กรัม (เกลือ ซอส พริกเกาหลี ผัดกับน้ำมัน) จะคล้ายกับน้ำเงี้ยวของทางเหนือ หรือพริกแกงแดงของอาหารไทย, ต้นหอมเกาหลี, พริก, เห็ดเข็มทอง, ไข่ไก่ 1 ฟอง และน้ำเปล่า 300 มล.

วิธีทำ ใส่เครื่องแกงเกาหลีและน้ำเปล่าในหม้อหิน เปิดไฟ รอจนน้ำเดือด ใส่หมูสับ เต้าหู้ขาว พอเดือดอีกครั้ง จึงใส่ต้นหอมซอย เร่งไฟแรงแล้วต้มประมาณ 3 นาที ใส่เห็ดเข็มทอง พริก และตอกไข่ไก่ ปิดไฟ ชิมซุปซุนดูบูจิเกครั้งแรกจะมีรสเค็มนำ รสจัดเพราะคุณซีไม่หวงเครื่องแกง ดังนั้น ‘ไข่ไก่’ จึงเป็นวัตถุดิบสำคัญ ช่วยดึงรสให้บาลานซ์ มีความอุมามิตามธรรมชาติ ด้วยความเข้มข้นของซุปชนิดนี้ มักนิยมกินกับข้าวสวยร้อนๆ จะอร่อยลงตัวกำลังดี.

ช้องมาศ พุ่มสวัสดดิ์ : เรื่อง

พิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์ : ภาพ