โดยตลอด 9 วัน 9 คืน ระหว่างประเพณีถือศีลกินผัก ผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแต่จะได้ถือศีลละเว้นจากเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์และขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และความเชื่อดั้งเดิมที่ยังคงได้รับการสืบทอดอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น

เริ่มตั้งแต่ “พิธีอิ้วเก้ง” หรือ “แห่พระรอบเมือง” พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาลเจ้าที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน เป็นการออกเยี่ยมขององค์กิ้วอ๋องไต่เต่เพื่ออวยพรให้กับประชาชนทั่วไป โดยชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้านเรือนและคุกเข่าอยู่ในอาการสงบนิ่งเพื่อรับพรจากองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ขณะที่ขบวนแห่ผ่านไป

พิธีที่สอง คือ “พิธีโก้ยโห้ย” หรือ “พิธีลุยไฟ” พิธีกรรมเพื่อเป็นการชำระพลังไม่ดีออกจากร่างกาย โดยหลังจากพิธีลุยไฟจะมี “พิธีโก้ยห่าน” หรือ “พิธีสะเดาะเคราะห์” ซึ่งจะมีการตัดกระดาษตัดเป็นรูปตนเองเขียนชื่อกำกับไว้ พร้อมผักกุยช่าย 1 ต้น จากนั้นต้องเดินข้ามสะพานให้บรรดาม้าทรงปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และประทับตราสัญลักษณ์หลังเสื้อเป็นอันเสร็จพิธี

และสุดท้าย “พิธีส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่” หรือ “พิธีส่งพระ” ที่จะมีขบวนแห่พระไปรอบเมืองของศาลเจ้าหลาย ๆ แห่งในเมืองภูเก็ต เพื่อส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ ผู้เป็นประธานในพิธีกลับสวรรค์ที่หน้าเสาโกเต้งช่วงเวลา 22.30 น. เมื่อขบวนส่งพระออกพ้นประตู ไฟทุกดวงในอ๊ามต้องดับสนิทและปิดประตูใหญ่

พิธีส่งพระถนนทุกสายในตัวเมืองภูเก็ต จะเต็มไปด้วยประชาชนที่มาส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่กลับสู่สวรรค์ เป็นพิธีที่ต้องมาชม โดยเฉพาะช่วงถนนถลาง ถนนภูเก็ต วงเวียนหอนาฬิกา และเส้นทางไปจนสุดสะพานหิน

นอกเหนือจากพิธีกรรมตามประเพณีแล้ว ศาลเจ้าหรืออ๊ามโบราณของจังหวัดภูเก็ต นอกจากจะมีบทบาทสำคัญในการจัดงานแล้ว ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการขอพรให้สมหวังในด้านต่าง ๆ เช่น ศาลเจ้ากะทู้ หรือ อ๊ามกะทู้ ขึ้นชื่อในด้านการขอพรให้เป็นผู้มีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย และห่างหายจากโรคภัยไข้เจ็บ

ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย หรือ อ๊ามจุ้ยตุ่ย เป็นอ๊ามเก่าแก่ของภูเก็ต นิยมไหว้ขอพรให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ศาลเจ้าบางเหนียว หรือ อ๊ามบางเหนียว มีความโดดเด่นในเรื่องของการขอพรด้านการค้าขาย การงาน การเงิน ให้มีความมั่นคงเจริญรุ่งเรือง และ ศาลเจ้าท่าเรือ หรือ อ๊ามท่าเรือ ภายในศาลเจ้ามี องค์พระโป้เส่ง ไต่เต่ (หงอ จินหยิน) เป็นพระประธาน ซึ่งมีความเชื่อว่าท่านเป็นเทพเจ้าที่มีความสามารถในวิชาแพทย์แผนโบราณการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ศาลเจ้าสะปำ หรือ อ๊ามสะปำ เป็นอีกหนึ่งอ๊ามที่นักธุรกิจ นักเดินทางหลายคนเดินทางเพื่อไปขอพรในเรื่องของธุรกิจ การงาน การเงิน ให้มั่นคงและเจริญรุ่งเรือง เป็นต้น

และพลาดไม่ได้กับเมนูอาหารเจเลิศรส เพราะภูเก็ตได้รับการคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็น Creative Cities of Gastronomy หรือ เป็นเมืองที่มีความสร้างสรรค์ทางด้านอาหาร และยังเป็นเมืองแรกในอาเซียนที่ได้รับรางวัลดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ด้วย ดังนั้นนักเดินทางที่เข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักจะได้พบกับอาหารที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อสุขภาพในหลากหลายรูปแบบทั้งร้านเด็ดสตรีทฟู้ดชื่อดังไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ ต่างพากันรังสรรค์อาหารจานผักขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อจัดเมนูสุดพิเศษไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลิ้มลอง อาทิ ต่าวกั้วจี่ หรือ เต้าหู้ทอดยัดไส้ถั่วงอกทอด, ขนมจีโจ้, เบเฮ่จี่, ห่อหมกเจ, หลนเต้าเจี้ยวเจ, โอวต้าวเจ, หมี่หุ้นแกงปูเจ, โลบะเจ, หมี่ฮกเกี้ยน, แกงไตปลาเจ, แกงเหลืองเจ, ผัดสะตอเจ,  ยำส้มโอเจ ฯลฯ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ชวนนักเดินทางร่วม “ประเพณีถือศีลกินผัก” ระหว่าง 3-11 ตุลาคม 2567